อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาด้วยการโจมตีทางอากาศในการเพิ่มขึ้นอย่างมากซึ่งรวมถึงการทิ้งระเบิดบ้านของผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส พร้อมสังหารสมาชิกในครอบครัว 10 คนในค่ายผู้ลี้ภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก และพยายามปิดกั้นการนำเสนอของสื่อด้วยชนโดยการทำลายอาคารสูงซึ่งเป็นที่ตั้งของ AP, อัลญะซีเราะห์ และ สื่ออื่น ๆ
สำนักข่าว AP กลุ่มฮามาสยังคงระดมยิงจรวดเข้าสู่อิสราเอลรวมถึงการระดมยิงในช่วงดึกที่เทลอาวีฟ ชายคนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์เมื่อจรวดตกใส่บ้านของเขาในเขตชานเมืองริมทะเล
ขณะที่ทูตสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นตะวันออกกลาง เรียกร้องให้หยุดยิงหลังจากการโจมตีต่อเนื่องที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 148 คนเสียชีวิตในฉนวนกาซารวมถึงเด็ก 41 คนและผู้หญิง 23 คน – และชาวอิสราเอลเสียชีวิต 8 คนรวมทั้งเด็ก 5 ขวบ
ประธานาธิบดีโจไบเดนซึ่งเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง แต่กลับสนับสนุนปฎิบัติการทางทหารของอิสราเอล โดยได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู และประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์
ถึงกระนั้นอิสราเอลก็เดินหน้ายกระดับการโจมตีโดยไม่สนใจคำแถลงของผู้นำสหรัฐฯ พร้อมสาบานว่าจะทำลายขีดความสามารถของฮามาสในฉนวนกาซา โดยสัปดาห์แห่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยจรวดของกลุ่มฮามาสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเกิดขึ้นหลังจากหลายสัปดาห์แห่งความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นและมาตรการคุกคามอย่างหนักของอิสราเอลในขับไล่ชาวปาเลสไตน์เจ้าของแผ่นดินออกจากกรุงเยรูซาเล็ม
เช้ามืดวันอาทิตย์เครื่องบินรบของอิสราเอลได้โจมตีอาคารและถนนหลายแห่งในพื้นที่สำคัญของเมืองกาซา ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยผู้อยู่อาศัยและนักข่าวแสดงให้เห็นว่าการโจมตีทางอากาศสร้างกลุ่มควันที่ปิดกั้นถนนสายหลักสายหนึ่งที่นำไปสู่ Shifa ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนและบาดเจ็บ 25 คนรวมทั้งเด็กและสตรี
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดบ้านของคอลิ้ล อัลฮายะห์ผู้อาวุโสในสาขาการเมืองของฮามาสโดยอ้างว่าอาคารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย” ของกลุ่ม ไม่มีรายงานทันทีเกี่ยวกับ อัลฮายะห์ว่าเขาบาดเจ็บล้มตายใด ๆ หรือไม่
การทิ้งระเบิดบ้านของอัล – ฮายะห์แสดงให้เห็นว่าอิสราเอลกำลังขยายปฎิบัติการนอกเหนือไปจากผู้บัญชาการทหารของกลุ่มเท่านั้น อิสราเอลอ้างว่าได้สังหารกลุ่มทหารของฮามาสไปแล้วหลายสิบคน โดยที่กลุ่มฮามาส และกลุ่มอิสลามิกญิฮาดกลุ่มนักรบอีกกลุ่มในฉนวนกาซา จะยอมรับว่ามีสมาชิกเสียชีวิตเพียง 20 คน
นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นอิสราเอลได้ยิงถล่มอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดของเมืองกาซา หลายแห่งโดยอ้างว่าเป็นที่ตั้งของโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของกลุ่มฮามาส โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอาคารอัลจาลาสูง 12 ชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสำนักข่าว AP เครือข่ายโทรทัศน์ Al-Jazeera และสื่ออื่น ๆ พร้อมกับอพาร์ตเมนต์ที่พักอาศัยหลายชั้นก็ตกเป็นเป้าโจมตี
“การโจมตีจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น” เนทันยาฮูกล่าวในสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์เมื่อเย็นวันเสาร์ เขากล่าวอ้างว่าหน่วยข่าวกรองทางทหารของฮามาสกำลังปฏิบัติการอยู่ภายในอาคาร อิสราเอลมักอ้างการปรากฏตัวของกลุ่มฮามาสเพื่อเป็นเหตุผลในการกำหนดเป้าหมายสถานที่บางแห่งในการโจมตีทางอากาศรวมถึงอาคารที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มก่อการร้ายใช้นักข่าวเป็นโลห์มนุษย์ แต่ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะสนับสนุนข้ออ้างดังกล่าว
AP ได้ตั้งสำนักงานที่อาคารแห่งนี้เป็นเวลา 15 ปีรวมถึงผ่านสงครามระหว่างอิสราเอล และฮามาสมาแล้ว 3 ครั้งก่อนหน้า ยังไม่เคยตกเป็นเป้าโจมตีโดยตรง ในช่วงความขัดแย้งเหล่านั้น และเหตุการณ์ปัจจุบันกล้องของสำนักข่าวจากสำนักงานชั้นบนสุดและระเบียงดาดฟ้าได้นำเสนอภาพสดตลอด 24 ชั่วโมงขณะที่จรวดของกลุ่มก่อการร้ายพุ่งเข้าหาอิสราเอล และการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำลายเมืองและสภาพแวดล้อม
“เราไม่มีข้อบ่งชี้ว่าฮามาสอยู่ในอาคารหรือทำงานอยู่ในอาคารนี้” Gary Pruitt ประธานและซีอีโอของ AP กล่าวในแถลงการณ์ “ นี่เป็นสิ่งที่เราตรวจสอบอย่างเต็มที่อย่างสุดความสามารถ เราจะไม่มีวันทำให้นักข่าวของเราตกอยู่ในความเสี่ยง”
ในช่วงบ่ายทหารโทรหาเจ้าของอาคารและเตือนว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ AP และผู้โดยอยู่อาศัยคนอื่น ๆ ต้องขนข้าวของอพยพออกมาอย่างปลอดภัย ภายใน 10 นาที ตามรายงานของอัลญะซีเราะห์
หลังจากนั้นไม่นานขีปนาวุธสามลูกก็พุ่งเข้าใส่อาคารและทำลายมันทำให้มันพังทลายลงพร้อมกลุ่มฝุ่นละอองขนาดยักษ์
“โลกจะรู้น้อยลงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้” Pruitt ประธานและซีอีโอของ AP กล่าว “ เรารู้สึกตกใจและหวาดกลัวที่กองทัพอิสราเอลจะกำหนดเป้าหมายและทำลายอาคารที่ทำการสำนักงานของ AP และองค์กรข่าวอื่น ๆ ในฉนวนกาซา”
“นี่เป็นการพัฒนาที่รบกวนจิตใจอย่างไม่น่าเชื่อ เราหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตได้อย่างหวุดหวิด” เขากล่าวพร้อมเสริมว่า AP กำลังรอข้อมูลจากรัฐบาลอิสราเอลและทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
Mostefa Souag รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ของอัลญะซีเราะห์เรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “อาชญากรรมสงคราม” โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ปิดปากสื่อ และซ่อนการสังหาร และความทุกข์ทรมานของประชาชนในฉนวนกาซา”
หลังจากการถล่มสำนักงานสื่อมวลชนเกิดขึ้น Jen Psaki เลขาธิการสำนักข่าวประจำทำเนียบขาวทวีตว่าสหรัฐฯได้ “สื่อสารโดยตรงกับชาวอิสราเอลว่าการรับรองความปลอดภัย และย้ำว่าความปลอดภัยของนักข่าวและสื่ออิสระเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่”
ในช่วงหัวค่ำวันเสาร์การโจมตีทางอากาศยังได้พุ่งเป้าโจมตีอาคารอพาร์ตเมนต์ในค่ายผู้ลี้ภัย Shati ที่มีประชากรหนาแน่นของเมืองกาซา คร่าชีวิตผู้หญิง 2 คนและเด็ก 8 คน
โมฮัมเหม็ด ฮาดิดีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าภรรยาของเขาและภรรยาของพี่ชายของเขา มารวมตัวกันที่บ้านพร้อมกับลูก ๆ ของพวกเขาเพื่อเฉลิมฉลองวันอีดิ้ลฟิตริก่อนถูกอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่ม โดยมีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือโอมาร์ลูกชายวัย 5 เดือนของฮาดิดี
แรงระเบิดทำให้ห้องนอนของเด็ก ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยซากปรักหักพัง และทำลายร้านเสริมสวย ท่ามกลางซากปรักหักพังมีของเล่นเด็ก เกม และเด็กๆ นั่งอยู่ ขณะที่บนเคาน์เตอร์ยังมีครัวจานอาหารที่ยังทำไม่เสร็จจากงานเลี้ยงวันอีดิ้ลฟิตริวางอยู่
“ไม่มีคำเตือน … คุณเห็นคนกำลังทานอาหาร แล้วทิ้งระเบิดใส่เลยเหรอ?” Jamal Al-Naji เพื่อนบ้านคนหนึ่งกล่าวโดยอ้างถึงการเฝ้าระวังของอิสราเอลเหนือฉนวนกาซา
ลอยด์ ออสตินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯทวีตเมื่อวันเสาร์ว่าเขาได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลอีกครั้ง Benny Gantz และยืนยันสิทธิ์ของอิสราเอลในการปกป้องตัวเองและประณาม“ กลุ่มฮามาสที่จงใจกำหนดเป้าหมายพลเมืองอิสราเอล” ออสตินกล่าวเสริมว่า:“ ฉันยังแสดงความหวังว่าจะความสงบจะเกิดขึ้นในไม่ช้า”
การทิ้งระเบิดเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ Hady Amr นักการทูตสหรัฐฯเดินทางมาถึงอิสราเอลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่สหรัฐอเมริกาอ้างว่าเป็นความพยายามในการยุติความขัดแย้งที่บานปลาย
อิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอของอียิปต์สำหรับการพักรบหนึ่งปี ขณะที่ผู้ปกครองของกลุ่มฮามาสยอมรับข้อเสนอของอิยิปต์ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของอียิปต์กล่าวเมื่อวันศุกร์ด้วยเงื่อนไขเพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจา
ความตึงเครียดเกิดขึ้นโดยมีต้นเหตุมาจากเยรูซาเล็มตะวันออกตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมาเมื่อชาวปาเลสไตน์ประท้วงความพยายามของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในการกวาดต้อนครอบครัวชาวปาเลสไตน์จำนวนมากออกจากบ้าน และมาตรการของตำรวจอิสราเอลที่มัสยิดอัลอักซาซึ่งเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองเก่าซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของทั้ง มุสลิมและยิว
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาชาวปาเลสไตน์เรียกว่าเป็นวันแห่ง อัล-นักบาหรือ “ภัยพิบัติ” เพื่อระลึกถึงชาวปาเลสไตน์ราว 700,000 คนที่ถูกขับออกจากบ้านหรือหนีออกจากบ้านจากการโจมตีของอิสราเอลในช่วงสงครามปี 1948 โดยชาวอาหรับอิสราเอลหลายพันคนเดินขบวนในการชุมนุม Nakba ในเมือง Sukhnin ทางตอนเหนือของอิสราเอลและมีการประท้วงกระจัดกระจายเกิดขึ้นในเขตเวสต์แบงก์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงานการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์ 2 คนจากกระสุนปืนของอิสราเอลในเวสต์แบงก์เมื่อวันเสาร์
