การพบกันที่เมืองเทียนจินของจีนเกิดขึ้นในขณะที่กองกำลังต่างชาติที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานอย่างต่อเนื่อง
อัลญะซีเราะห์รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้พบกับคณะผู้แทนตอลิบาน ส่งสัญญาณถึงความสัมพันธ์แนบแน่นในขณะที่กองกำลังต่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานอย่างต่อเนื่อง
หวาง ยี่(Wang Yi) บอกกับตัวแทนกลุ่มตอลิบานที่มาเยี่ยม 9 คน ซึ่งรวมถึงมุลเลาะห์ อับดุล กานี บาราดาร์(Mullah Abdul Ghani Baradar) ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มว่า ปักกิ่งคาดหวังให้จีน “มีบทบาทสำคัญในกระบวนการปรองดอง และฟื้นฟูอย่างสันติในอัฟกานิสถาน”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่าเขาหวังว่ากลุ่มตอลิบานจะปราบปรามขบวนการอิสลามิกเตอร์กิสถานตะวันออก เนื่องจากเป็น “ภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของชาติจีน” ตามรายงานที่อ้างถึงกลุ่มที่จีนกล่าวว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคซินเจียงทางตะวันตกไกลของจีน. ปักกิ่งกล่าวว่า เกรงว่าประเทศเพื่อนบ้านในอัฟกานิสถานจะถูกนำมาใช้เป็นสถานที่รวมตัวสำหรับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
การเยือนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กลุ่มตอลิบานได้เข้าควบคุมพื้นที่มหาศาลทั่วอัฟกานิสถานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เมื่อกองกำลังต่างชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ได้เริ่มขั้นตอนสุดท้ายของการถอนกำลัง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคม
การต่อสู้กับกองกำลังของรัฐบาลอัฟกานิสถานทำให้พลเรือนเสียชีวิตและพลัดถิ่นเพิ่มขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ผู้นำตอลิบานได้เพิ่มระดับการทูตระหว่างประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยแสวงหาการยอมรับจากทั่วโลกว่าพวกเขาหวังจะกลับขึ้นสู่อำนาจอีกครั้ง
การประชุมเมื่อวันพุธที่เมืองเทียนจินของจีน ซึ่งโมฮัมเหม็ด นาอีม โฆษกกลุ่มตอลิบานกล่าวว่าเป็นไปตามคำเชิญจากทางการจีน ถูกมองว่าเป็นของขวัญจากปักกิ่งที่มีต่อความชอบธรรมของตอลิบัน
นาอีม เขียนบน Twitter ว่า “การเมือง เศรษฐกิจ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของทั้งสองประเทศและสถานการณ์ปัจจุบันของอัฟกานิสถานและกระบวนการสันติภาพได้มีการหารือกันในการประชุม”
“คณะผู้แทน [ตอลิบัน] รับรองกับจีนว่าพวกเขาจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามใช้ดินอัฟกันสู้กับจีน” นาอีม กล่าวเสริมว่า “จีนยังย้ำถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือชาวอัฟกันต่อไป และกล่าวว่าพวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งในประเด็นของอัฟกานิสถาน แต่จะช่วยแก้ปัญหาและฟื้นฟูสันติภาพในประเทศ”
ปักกิ่งมองว่าการถอนตัวของสหรัฐฯ จากอัฟกานิสถานเป็นผลดี ในขณะที่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลในอนาคตในกรุงคาบูลก็อาจเป็นการปูทางสำหรับการขยายโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไปยังอัฟกานิสถานและผ่านทางไปยังสาธารณรัฐเอเชียกลาง
เมื่อวันพุธ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนพยายามเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างนโยบายของวอชิงตันและปักกิ่ง
“จีนยึดมั่นในการไม่แทรกแซงกิจการภายในของอัฟกานิสถานมาโดยตลอด … อัฟกานิสถานเป็นของชาวอัฟกัน” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าตรงกันข้ามกับ “ความล้มเหลวของนโยบายสหรัฐฯ ที่มีต่ออัฟกานิสถาน”
ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ เตือนเมื่อวันพุธว่าอัฟกานิสถานจะกลายเป็น “รัฐนอกรีต” หากตอลิบานเข้าควบคุมโดยใช้กำลัง
“กลุ่มตอลิบานกล่าวว่าพวกเขาแสวงหาการยอมรับจากนานาชาติ และต้องการการสนับสนุนจากนานาชาติสำหรับอัฟกานิสถาน เขาต้องการให้ผู้นำสามารถเดินทางไปทั่วโลกได้อย่างอิสระ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ฯลฯ” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
“การยึดครองประเทศโดยการบังคับและใช้สิทธิของประชาชนในทางที่ผิด ไม่ใช่หนทางที่จะบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้น”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน ยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ “ทบทวนการคำพูดถึงความเต็มใจของตอลิบานและผู้สนับสนุนของพวกเขาในการแก้ปัญหาทางการเมือง”
“ในแง่ของขนาด ขอบเขต และเวลา เรากำลังเผชิญกับการบุกรุกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา” เขากล่าวในการปราศรัยเมื่อวันพุธ
“นี่ไม่ใช่กลุ่มตอลิบานในศตวรรษที่ 20 … แต่เป็นการรวมตัวของการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายผู้ก่อการร้ายข้ามชาติและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” เขากล่าว