ฮามิด คาร์ไซ อดีตประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน พบกับ Anas Haqqani สมาชิกคนสำคัญของกลุ่มตอลิบานในวันพุธ ขณะที่ผู้นำระดับสูงของตอลิบานเดินทางมาถึงอัฟกานิสถานเพื่อเริ่มการเจรจาที่สำคัญสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
อาหรับนิวส์รายงานว่า เครือข่าย Haqqani ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขึ้นทะเบียนเป็นกลุ่มก่อการร้ายในปี 2555 เป็นกำลังสำคัญของกลุ่มตอลิบานในการเข้ายึดกรุงคาบูล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอัฟกานิสถานอย่างน่าทึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยกลับมาสู่อำนาจหลังถูกยึดไปโดยสหรัฐฯ เมื่อ 20 ปีก่อน
ในระหว่างที่กลุ่มตอลิบานล้อมกรุงคาบูล ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ได้บินออกนอกประเทศ และโพสต์บนเฟซบุ๊กในภายหลังว่าเขาไปเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดในเมืองหลวง โดยล่าสุดเขาเปิดเผยว่าได้รับสถานะลีภัยใน UAE พร้อมปฎิเสธตามการรายงานของสื่อต่างประเทศว่ามีการนำเงินจำนวนออกมาด้วย
ตั้งแต่นั้นมา สภารัฐบาลอัฟกานิสถานที่ประกอบด้วยกลุ่มของคาร์ไซ, กุลบูดิน เฮกมาตยาร์ ผู้นำกลุ่มการเมืองและทหารกึ่งทหารของฮิซบ์-อี-อิสลาม และอับดุลลาห์ อับดุลลาห์ ทูตสันติภาพหลักของฝ่ายบริหารเก่า ได้พยายามร่างแผนงานในอนาคตสำหรับอัฟกานิสถาน
คณะผู้แทนตอลิบานนำโดย Baradar หัวหน้าสำนักงานการเมืองของกลุ่มในกาตาร์ เดินทางถึงอัฟกานิสถานเมื่อเย็นวันอังคาร โดยเครื่องบินทหารของกาตาร์ที่ลงจอดในจังหวัดกันดาฮาร์ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่ม
ในระหว่างการแถลงข่าวค้างคืนที่กันดาฮาร์ Mullah Khairullah Khairkhaw สมาชิกของตอลิบานกล่าวว่าคณะผู้แทน “จะจัดให้มีการปรึกษาหารือและหารือกับผู้นำในท้องถิ่น และกลุ่มอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุม”
ในขณะเดียวกัน Mohammad Yusof Saha โฆษกของ Karzai บอกกับ Associated Press ว่าการประชุมเบื้องต้นกับทีมตอลิบานจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจากับ Mullah Abdul Ghani Baradar ผู้นำทางการเมืองระดับสูงของตอลิบาน
แหล่งข่าวของกลุ่มตอลิบานในกันดาฮาร์ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูดกับสื่อ บอกกับอาหรับนิวส์ว่าคณะผู้แทนตอลิบานคาดว่าจะเดินทางไปคาบูลในวันนี้ ซึ่ง Baradar “จะพบกับกลุ่มชาวอัฟกันกลุ่มหลักๆ” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งราชการสำคัญๆ มาแล้ว
การเริ่มต้นการเจรจาครั้งสำคัญระหว่างกลุ่มตอลิบานและเจ้าหน้าที่ของอัฟกานิสถานเกิดขึ้นท่ามกลางคำเตือนจากมหาอำนาจโลกรายใหญ่ที่ต่อต้านกลุ่มตอลิบานในการคืนสถานะรัฐเอมิเรตอิสลามของตอลิบานหลังพวกเขาปกครองอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 2539 ถึง 2544 โดยในปี 2543 ได้รับการชื่นชมจากสหประชาชาติในการจัดการกับปัญหายาเสพติดในประเทศ แต่ภายหลังสหรัฐฯ ส่งกำลังเข้าล้มล้างการปกครองของตอลิบันกลับกล่าวหาว่าตอลิบันมีรายได้จากการค้ายาเสพติด และละเมิดสิทธิมนุษยชน
กลุ่มตอลิบานยืนยันว่าพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไป และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ได้ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการแก้แค้น รักษาสิทธิสตรีภายใต้กรอบของกฎหมายอิสลาม รับรองเสรีภาพของสื่อ และเสนอการนิรโทษกรรมแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในอัฟกานิสถาน
ต่างจากระบอบการปกครองในอดีตของพวกเขา ที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวทั่วโลก โดยมีเพียงปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดิอาระเบียที่ยอมรับรัฐบาลของพวกเขา กลุ่มตอลิบานกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่าพวกเขาไม่ได้ “ผูกขาดอำนาจ” และจะจัดตั้งรัฐบาลขึ้นโดย “เป็นที่ยอมรับของทุกกลุ่มชาติพันธุ์”
นับตั้งแต่การยึดอำนาจของตอลิบานเมื่อวันอาทิตย์ สหรัฐฯ ได้ยึดเงินสดหลายพันล้านของอัฟกานิสถานไว้ โดยอ้างว่าเพื่อขัดขวางไม่ให้กลุ่มตอลิบานเข้าถึงเงิน ในขณะที่หลายประเทศได้เตือนว่าอย่าระงับความช่วยเหลือที่จำเป็นมากสำหรับประเทศที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง และปัญหาการเงิน จนกว่ากลุ่มตอลิบานจะให้คำมั่นสัญญาสำหรับรัฐบาลใหม่ที่ “รวมทุกกลุ่มคน”
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกลุ่มตอลิบานบอกกับอาหรับนิวส์ว่า Baradar อายุ 50 ต้นๆ และชื่อของเขาหมายถึง “พี่ชาย” มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลชั่วคราวและดูแลประเทศ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากกรุงคาบูล Wahidullah Ghazikhail บอกกับอาหรับนิวส์ว่า เขาไม่ได้ “มองโลกในแง่ดี” คาดว่าทั้งสองฝ่ายไม่น่าจะบรรลุข้อตกลงในเร็วๆ นี้
“จะมีการประชุมและหารือ แต่จะไม่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทุกฝ่ายจะต่อรองกัน เพราะนี่ไม่ใช่ปัญหาง่ายๆ” เขากล่าว
“พวกเขาจะพูดถึงการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญในเรื่องอื่นๆ ที่อาจเป็นไปได้ยากมาก ผมไม่ค่อยมองโลกในแง่ดีที่ว่าพวกเขาจะบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า” เขากล่าวเสริม
ท่ามกลางความไม่แน่นอน ชาวอัฟกันหลายพันคนพยายามหนีออกนอกประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกลุ่มตอลิบานเข้าดูแลความสงบท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลเมื่อวันอังคาร
รายงานของสื่อระบุว่า ประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันนอกสนามบินในวันพุธ
