อัลจาซีราเปิดเผยบทสัมภาษณ์ชาวซีเรียที่เคยต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ในขณะที่รัสเซียกำลังโจมตียูเครน
ภาพของขีปนาวุธของรัสเซียที่โจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนทำให้ซีเรียอย่าง Ahmad al-Khatib ซึ่งเป็นชาวเมือง Aleppo ก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น
“ตอนนี้ยูเครนกำลังกลายเป็นอเลปโปอย่างเต็มรูปแบบใช่ไหม” al-Khatib ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในซีเรียในช่วงเวลาที่ถูกโจมตีอย่างรุนแรงโดยรัสเซีย
เขาถามด้วยความตกใจ? “มันบ้ามากที่สิ่งที่เราประสบเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากำลังถูกแสดงซ้ำแทบจะทีละฉากในยูเครน”
บ่อยครั้งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่โหดร้ายที่สุดในสงครามกลางเมืองในซีเรีย กองกำลังสนับสนุนบาชาร์ยึดเมืองอเลปโปจากฝายต่อต้านในปี 2016 การโจมตีนองเลือดเกิดขึ้นจากการยิงทิ้งระเบิดทางอากาศอย่างหนักของรัสเซีย รวมถึงการกำหนดเป้าหมายสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ เช่นโรงพยาบาล.
ในเวลานี้ ในขณะที่กองกำลังของรัสเซียยังคงบุกเข้าไปในใจกลางของยูเครนและโจมตีทางอากาศที่รุนแรงขึ้นในเขตเมือง ชาวซีเรียกำลังหวนนึกถึงความสยองขวัญจากการโจมตีที่กระทำโดยกองทัพกลุ่มเดียวกัน
“มีระเบิดและเลือดอยู่ทุกหนทุกแห่ง และคุณต้องหลับ และตื่นขึ้นด้วยเสียงเครื่องบินรบที่บินผ่านหัวคุณ และจากนั้นก็มีเสียงโจมตีทางอากาศ” al-Khatib บอกกับอัลญะซีเราะห์ “บ้านเรือนกำลังสั่นไหว เด็กๆ กำลังร้องไห้ และเราทุกคนต่างรอคอยความตาย”
al-Khatib ให้สัมภาษณ์จากอพาร์ตเมนต์ของเขาในตุรกีซึ่งเขาย้ายไปที่นั่นในปี 2017 ขณะที่เขาตกตะลึงกับการโจมตีของรัสเซียในตอนแรก เขาไม่แปลกใจกับสิ่งที่เห็น
“เราได้บอกกับคนทั่วโลกว่า [ประธานาธิบดีวลาดิมีร์] ปูตินกำลังก่ออาชญากรรมในซีเรีย และปูตินมีความสามารถมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้” เขาเตือน “มันอาจจะน่ากลัวมาก”
รัสเซียใช้สงครามในซีเรียเป็นสนามฝึกทหารที่มีประสิทธิภาพมาหลายปีแล้ว ด้วยการสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ซึ่งยืนเคียงข้างรัสเซียในการรุกรานยูเครน ปูตินได้ทดสอบความสามารถทางทหารของเขาในซีเรียเช่นเดียวกับการตอบสนองของตะวันตก
หลังปูตินเข้าสู่สงครามซีเรียในปี 2015 กองกำลังรัสเซียได้สร้างชื่อเสียงให้กับพื้นที่เกือบทั้งหมดที่ปกครองโดยฝ่ายต่อต้าน ด้วยการทิ้งระเบิดทั้งด่านทหาร และพื้นที่พลเรือน ปูตินเริ่มการระดมยิงกวาดล้างเพื่อช่วยอัล-อัสซาดกวาดล้างกองกำลังฝ่ายต่อต้านเกือบทั้งหมด และพลิกสถานการณ์เพื่อยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศกลับมาอยู่ในอำนาจตน
บางคนกลัวว่าแนวทางที่คล้ายคลึงกันอาจเกิดขึ้นกับยูเครน เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้น และผู้อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งรวมถึงกรุงเคียฟ และคาร์คิฟ ต่างหลบหนีอย่างบ้าคลั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อันเป็นวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
“พวกเขาใช้ทุกวิถีทางที่ทำได้ในอเลปโป และถึงแม้ผมไม่อยากเห็นสิ่งนี้ แต่ผมก็จะไม่แปลกใจเลยหากพวกเขาเริ่มใช้เครื่องบิน ระเบิด และขีปนาวุธแบบเดียวกันเพื่อโจมตีพลเรือนในยูเครน” Mustafa al-Qaseem ชาวซีเรียที่เคยอาศัยอยู่ในอเลปโป และตอนนี้อาศัยอยู่ในเยอรมนีกล่าว “แม้แต่การอ่านข่าวจากระยะไกลก็ทำให้รู้สึกหนาวสั่น ผมไม่ต้องการที่จะหวนนึกถึงวันเหล่านั้นอีก”
สงครามในยูเครน เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในอเลปโป กำลังได้รับการบันทึกและแบ่งปันบนโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง แต่คำวิงวอนที่สิ้นหวังของชาวซีเรียในช่วงสงคราม ส่วนใหญ่ มันเข้าสู่หลุมดำ(ความเงียบ)
ปูตินยังคงดำเนินการโดยไม่ต้องรับโทษแม้มีรายงานว่ากองกำลังของเขาวางระเบิดโรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่พลเรือนอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ความรุนแรงของการโจมตีทางอากาศยังเพิ่มสูงขึ้นอีกในอเลปโป ซึ่งฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว(เวลานั้น)ว่ารัสเซียและรัฐบาลซีเรียก่ออาชญากรรมสงคราม
ตอนนี้ในยูเครน รายงานแสดงให้เห็นว่ากองกำลังรัสเซียได้ทิ้งระเบิดพื้นที่พลเรือนในเมืองใหญ่ด้วย ทำให้เกิดความกลัวว่าปูตินอาจจะหยิบตำราเก่าที่เขาฆ่าพลเรือนซีในสงครามซีเรีย
“หลายปีก่อนในเมืองอเลปโป รัสเซียวางระเบิดและทำลายเมืองเป็นเวลาหลายเดือน และเครื่องบินลำเดียวกันก็ไล่ฆ่าเราทุกวัน เราเผชิญหน้าพวกมันเพียงลำพัง” Ahmed Abazeid ชาวซีเรียจากอเลปโป กล่าว “โลกแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยคำพูด และจบลงด้วยชัยชนะของปูตินและการพลัดถิ่นของผู้คน”
“ผมหวังว่าเราจะไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอเลปโปอีกครั้งใน Kyiv”