ซาอุดีอาระเบียเรียกร้องอีกครั้งเมื่อวันพุธ (27 เมษายน) ให้สหประชาชาติยุติการยืนครองของอิสราเอลด้วยการรับรองการจัดตั้งปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสราเอลที่มีกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง และให้สิทธิเต็มในการกลับคืนแผ่นดินเกิดของผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์
อาหรับนิวส์รายงานว่า ข้อความดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางและปาเลสไตน์ โดยที่ปรึกษา Mohammed Al-Ateeq ผู้ดูแลภารกิจถาวรของซาอุดีอาระเบียประจำสหประชาชาติ
เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพที่ครอบคลุมและยั่งยืนในตะวันออกกลางในฐานะทางเลือกเชิงกลยุทธ์ในการยุติความขัดแย้ง บนพื้นฐานของการแก้ปัญหาสองรัฐ ตามการสนับสนุนของแผนสันติภาพที่นานาประเทศให้การรับรองตามข้อเสนอของชาติอาหรับ 2002 รวมถึงการกลับมาของผู้ลี้ภัย และการยุติการยึดครองดินแดนอาหรับทั้งหมดของอิสราเอล
Al-Ateeq กล่าวว่า “เดือนรอมฎอนอันประเสริฐของชาวมุสลิมได้เห็นกองกำลังของอิสราเอลผู้ยึดครองได้บุกรุกโจมตีมัสยิดอัล-อักซอ ปิดประตู และโจมตีผู้ละหมาดที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ภายในมัสยิด และบริเวณลานด้านนอก”
เขากล่าวอีกว่าราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำของอิสราเอลที่อธิบายว่าเสมือนเป็นการโจมตีประเทศอิสลามอย่างโจ่งแจ้งและเป็นการละเมิดมติระหว่างประเทศ
นักการทูตซาอุดิอาระเบียเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ดำเนินการให้อิสราเอลต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับการละเมิดอย่างต่อเนื่องต่อชาวปาเลสไตน์และดินแดนของพวกเขา ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงและความตึงเครียดด้านความมั่นคงในภูมิภาคมากขึ้น .
ในการปราศรัยกับผู้แทนชาติต่างๆ Al-Ateeq ยังกล่าวย้ำถึงการโจมตีครั้งล่าสุดของกลุ่มฮูซีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านต่อเป้าหมายพลเรือนในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เขาบอกในที่ประชุมว่าเป็นสิทธิอธิปไตยของประเทศของเขาที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องดินแดนและพลเมืองของตน ตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ในแง่การเมืองซาอุดีอาระเบีย กล่าวแสดงความยินดี และสนับสนุนการโอนอำนาจของอดีตประธานาธิบดี Abed Rabbo Mansour Hadi ของเยเมน ไปยังสภาประธานาธิบดีชุดใหม่ในเมืองเอเดน ซึ่งหวังว่าจะช่วยนำความมั่นคงและความสงบสุขมาสู่เยเมน