จีนจับมือซาอุฯ-อิหร่าน กลับมาสานสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จีนเป็นตัวกลางในร่วมมือข้อตกลงของซาอุดีอาระเบียและอิหร่านในการกลับมาสานสัมพันธ์ทางการฑูตทวิภาคี หลังจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของพวกเขาในกรุงปักกิ่ง

สำนักข่าว AA รายงานว่ากระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในถ้อยแถลงว่า ปักกิ่งตั้งตารอที่จะได้เห็นการสื่อสารและการเจรจาที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ และจีนพร้อมที่จะแสดงบทบาทเชิงบวกและสร้างสรรค์ต่อไปในการอำนวยความสะดวกในความพยายามดังกล่าว

“ด้วยความพยายามร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การเจรจาระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่านในกรุงปักกิ่งได้ผลลัพธ์ที่สำคัญ” กระทรวงฯ ระบุ

จีนอำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างคณะผู้แทนของซาอุดีอาระเบียและอิหร่านตั้งแต่วันที่ 6-10 มีนาคม คณะผู้แทนของซาอุดีอาระเบียนำโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ มูซาด บิน โมฮัมเหม็ด อัล-ไอบัน ขณะที่คณะผู้แทนของอิหร่านนำโดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลเรือเอก อาลี ชัมคานี.

หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีนและเป็นสมาชิกของกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างริยาดและเตหะราน กระทรวงฯ ระบุในถ้อยแถลง โดยโพสต์บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

“ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านตกลงที่จะปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างพวกเขาผ่านการเจรจาและการทูต เคารพอำนาจอธิปไตยของรัฐ และไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐ”

“พวกเขาตกลงที่จะกลับมาสานสัมพันธ์ทางการทูตและดำเนินความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งสามประเทศแสดงความกระตือรือร้นที่จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศ”

ปักกิ่งหวังว่าข้อตกลงระหว่างทั้งสองประเทศ ตลอดจนการจัดทำโรดแมปและไทม์ไลน์สำหรับการปรับปรุงความสัมพันธ์ จะเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับทั้งสองประเทศในการเริ่มต้นบทใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี

เมื่อวันศุกร์ แถลงการณ์ไตรภาคีมีขึ้นหลังจากการเจรจาอย่างเข้มข้นเป็นเวลาหลายวันระหว่างเจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน โดยมีจีนเป็นผู้ประสานงาน

ทั้งสองประเทศตัดขาดความสัมพันธ์หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมชาวอิหร่านโจมตีคณะทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะรานในเดือนมกราคม 2559 หลังการประหารชีวิตชีค นิมร์ อัล-นิมร์ นักการศาสนาชีอะห์ชาวซาอุดีอาระเบีย ในข้อหาการยุยงให้เกิดความรุนแรงในประเทศ

เป็นความคิดริเริ่มของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในการยุติความตึงเครียดทางการทูตระหว่างริยาดและเตหะราน หลังจากการเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และต่อมาประธานาธิบดีอิหร่านเยือนปักกิ่งตามคำเชิญของคู่หูชาวจีน ตามรายงานของสื่อจีน

จีนกล่าวว่าข้อตกลงดังกลาวจะช่วยให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคสามารถปลดปล่อยตนเองจากการแทรกแซงจากภายนอกและควบคุมอนาคตของตนเองได้

หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “ผมต้องการเน้นย้ำว่าจีนไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัวใดๆ ในตะวันออกกลาง เราเคารพสถานะของประเทศในตะวันออกกลางในฐานะเจ้าของพื้นที่ และต่อต้านการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว

“จีนไม่มีความตั้งใจและจะไม่พยายามเติมเต็มสิ่งที่เรียกว่าสุญญากาศหรือสร้างกลุ่มกีดกัน จีนเชื่อเสมอว่าอนาคตของตะวันออกกลางควรอยู่ในมือของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเสมอ” เขากล่าวเสริม

ปักกิ่งยืนยันที่จะสนับสนุนต่อไปเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลาง

“จีนสนับสนุนประชาชนในตะวันออกกลางเสมอในการสำรวจเส้นทางการพัฒนาของตนอย่างอิสระ และสนับสนุนประเทศในตะวันออกกลางในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือเพื่อร่วมกันส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาค”

ความคิดเห็น

comments