อิสราเอลห้ามผู้ไม่ใช่มุสลิมเข้ามัสยิดอัล-อักศอจะกว่าจะหมดรอมฎอน

อิสราเอลประกาศห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าบริเวณมัสยิด อัล-อักศอ ที่เป็นจุดความขัดแย้งในกรุงเยรูซาเล็มจนกว่าจะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ด้านอดีตมุฟตีชี้ เป็นความพยายามของอิสราเอลในการแสดงสัญลักษณ์ในการควบคุมมัสยิด

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลอนุญาตให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวประมาณ 800 คนสวดมนต์ในบริเวณดังกล่าวในเช้าวันอังคาร วันที่ 6 ของวันหยุดเทศกาลปัสกา โดยละเมิดข้อตกลงที่มีมายาวนานซึ่งห้ามกิจกรรมดังกล่าวในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนอันประเสริฐของชาวมุสลิม

ยังไม่ชัดเจนว่าขบวนการผู้ตั้งถิ่นฐานหัวรุนแรงของอิสราเอลจะปฏิบัติตามนโยบายนี้หรือไม่ Itamar Ben-Gvir (อิตามาร์ เบน-กวีร์) รัฐมนตรีหัวรุนแรงผู้คุมกิจการตำรวจอิสราเอล หนึ่งในผู้นำยิวหัวรุนแรง ซึ่งเป็นผู้คลั่งไคล้ศาสนาชื่อกระฉ่อนและมีประวัติอาชญากรรมในการสนับสนุนการก่อการร้ายและยุยงให้เกิดการเหยียดเชื้อชาติ ประณามคำสั่งห้ามดังกล่าว “เมื่อการก่อการร้ายโจมตีเรา เราต้องโต้กลับด้วยกำลังอันยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ยอมจำนนต่อแผนการของมัน” เขากล่าว

ขณะที่ เชค Ekrima Said Sabri อดีตมุสลิมใหญ่แห่งกรุงเยรูซาเล็มและปาเลสไตน์ และนักวิชาการที่ อัล-อัศอ กล่าวกับ Arab News ว่า “อิสราเอลต้องการพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นผู้ตัดสินว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้และไม่ได้ที่ อัล-อักศอ และเราเห็นว่า นี่เป็นการละเมิดและยั่วยุอย่างรุนแรง”

ในขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ความรุนแรงของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองก็ไม่สงบลงเมื่อวันอังคาร กองทัพสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คนและบาดเจ็บ 1 ใน 3 ในหมู่บ้านเขต Deir Al-Hatab ทางตะวันออกของ Nablus ระหว่างการซุ่มโจมตีใกล้นิคม Elon Moreh

แหล่งข่าวชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตสองคนคือ Saud Al-Titi และ Mohammed Abu Dira เป็นอดีตผู้ถูกกักขัง และเป็นสมาชิกของ Al-Aqsa Martyrs’ Brigades ซึ่งเป็นฝ่ายทหารของพรรค Fatah ของประธานาธิบดี Mahmoud Abbas

ความคิดเห็น

comments