คนขับรถไฟใต้ดินอังกฤษถูกพักงาน หลังเป็นต้นเสียงนำ ‘free, free Palestine’

คนขับรถไฟใต้ดินลอนดอนถูกสั่งพักงานเมื่อวันจันทร์(23 ตุลาคม) หลังจากที่เขาประกาศเสียผ่านลำโพงของขบวนรถนำผู้โดยสารตะโกน “ฟรี ปาเลสไตน์” ระหว่างการประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ช่วงสุดสัปดาห์ตามรายงานของสำนักข่าว Anadolu

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์หลังจากวิดีโอที่นักข่าวคนหนึ่งโพสต์ทางออนไลน์บันทึกช่วงเวลาที่คนขับรถสายเซ็นทรัลเริ่มประกาศเสียงโดยพูดว่า “ฟรี ฟรี” ซึ่งผู้โดยสารโต้ตอบด้วย “ปาเลสไตน์” ซึ่งเป็นสโลแกนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการประท้วงเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์

Transport for London ได้ทำการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว

เราได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนและถี่ถ้วนแล้วในวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าคนขับรถไฟใต้ดินใช้ระบบกระจายเสียงในทางที่ผิดและตะโกนนำบนรถไฟสาย Central เมื่อวันเสาร์

กลินน์ บาร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการด้านคมนาคมของลอนดอน กล่าว

ขณะนี้มีการระบุตัวผู้ขับขี่และสั่งพักงานของเขาแล้ว ในขณะที่เรายังคงสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ตามนโยบายและขั้นตอนของเรา

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เพียงไม่กี่วันหลังจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางเริ่มต้นขึ้น ซูเอลลา บราเวอร์แมน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร ออกคำสั่งถึงผู้บัญชาการตำรวจเกี่ยวกับการประดับธงปาเลสไตน์บนท้องถนนของอังกฤษ

เธออ้างกับตำรวจว่าการโบกธง “อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย” หากถูกมองว่าเป็นการแสดงการสนับสนุนการก่อการร้าย

เธอยกตัวอย่างการดำเนินการประท้วงซึ่งเธอเชื่อว่าอาจถือเป็นการละเมิดความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ รวมถึงการกำหนดเป้าหมายไปยังย่านใกล้เคียงของชาวยิว โบกสัญลักษณ์ที่สนับสนุนปาเลสไตน์หรือสนับสนุนฮามาส และการตะโกนคำขวัญที่อาจตีความได้ว่าเป็นการต่อต้านอิสราเอล

ความขัดแย้งในฉนวนกาซา ซึ่งอยู่ภายใต้การทิ้งระเบิดและการปิดล้อมของอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม เริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสเริ่มปฏิบัติการพายุอัล-อักซอ ซึ่งเป็นการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวหลายง่าม ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดจำนวนมากและการแทรกซึมเข้าไปในอิสราเอลทางบก ทางทะเล และ อากาศ. โดยระบุว่าการบุกรุกครั้งนี้เป็นการตอบโต้การโจมตีมัสยิดอัล-อักซอ และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นโดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์

จากนั้นกองทัพอิสราเอลก็ได้เปิดปฏิบัติการดาบเหล็กเพื่อโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 6,500 รายในความขัดแย้งนี้ รวมถึงชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 5,087 คน และชาวอิสราเอลมากกว่า 1,400 คน

ความคิดเห็น

comments