เมืองแฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนีเปิดไฟเมื่อวันอาทิตย์(10 มีนาคม)เพื่อเฉลิมฉลองเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของชาวมุสลิม ในสิ่งที่สื่อท้องถิ่นระบุว่าเป็นครั้งแรกของประเทศ
ป้ายขนาดใหญ่ที่อ่านว่า “Happy Ramadan” และการจัดแสดงไฟรูปดาว โคมไฟ และพระจันทร์เสี้ยว ได้รับการเปิดอย่างเป็นทางการในพิธีช่วงเย็น โดยส่องสว่างถนนคนเดินในใจกลางเมืองที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสื่อของเยอรมนี ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เมืองในเยอรมนีได้จุดไฟส่องสว่างตามท้องถนนเพื่อรับเดือนรอมฎอน
นายกเทศมนตรี Nargess Eskandari-Gruenberg เรียกสิ่งนี้ว่า “การกระทำที่งดงาม” ที่แสดงถึง “การอยู่ร่วมกันอย่างสันติของผู้คนในแฟรงก์เฟิร์ต”
“ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติและสงคราม แสงสว่างนี้เป็นสัญญาณแห่งความหวังสำหรับทุกคน และเสริมสร้างความสามัคคีในสังคมเมืองที่มีความหลากหลายของเรา” เธอกล่าวในแถลงการณ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้
เมืองแฟรงก์เฟิร์ตทางตะวันตกซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเยอรมนีที่มีประชากรมากกว่า 750,000 คน เป็นที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมประมาณ 100,000 คน
มีรายงานว่าไฟเดือนรอมฎอนใช้งบประมาณของเมืองไปอย่างน้อย 75,000 ยูโร (82,000 ดอลลาร์)
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ Bild ยังรายงานว่า การตกแต่งถนนเดือนรอมฎอนยังถูกจัดแสดงในเมืองโคโลญจน์ของเยอรมันเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากการบริจาคของเอกชนมากกว่ากองทุนสาธารณะก็ตาม
สภาประสานงานมุสลิมสาขาแฟรงก์เฟิร์ต ยินดีกับไฟถนนในฐานะสัญลักษณ์ของ “ความเข้าใจ และการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนาของเมืองนานาชาติของเรา”
แต่ไม่ใช่ว่าทุกปฏิกิริยาจะเป็นไปในเชิงบวก
โรเบิร์ต แลมโบร สมาชิกสภานิติบัญญัติระดับภูมิภาคจากเฮสส์ ซึ่งพรรค AfD ที่เป็นพรรคขวาจัดได้รับคะแนนโหวตสูงเปิดเผยในการสำรวจความคิดเห็น เรื่องการตกแต่งไฟในเดือนรอมฎอนว่าเป็น “ท่าทางของการยอมจำนนต่อศาสนาอิสลาม”
แนวคิดในการแขวนไฟมาจากสมาชิกสภาเมือง Omar Shehata จากพรรค Social Democratic Party ของ Chancellor Olaf Scholz Shehata บอกกับหนังสือพิมพ์ Frankfurter Allgemeine ว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากลอนดอน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วถือเป็นเทศกาลรอมฎอนเป็นครั้งแรก
ในการตอบสนองต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของ AfD เขากล่าวว่า “ผู้คนจำนวนมากในแฟรงก์เฟิร์ตยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มขวาจัด การต่อต้านชาวยิว และต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติของชาวมุสลิม”
