สงครามในฉนวนกาซาและการยึดครองด่านเราะฟะห์ของอิสราเอล ซึ่งเชื่อมต่อฉนวนกาซากับอียิปต์ ทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 2,500 คน ไม่สามารถประกอบพิธีฮัจญ์ได้ในปีนี้ ตามรายงานของกระทรวงการกุศลในฉนวนกาซา
อิครามี อัล-มุดัลลาล โฆษกกระทรวงซึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอานาโดลูระบุ
สงครามทำให้กระทรวงไม่สามารถจัดเตรียมการประกอบพิธีฮัจญ์ตามปกติได้ รวมถึงการลงนามในสัญญาการขนส่งภายในอียิปต์และซาอุดีอาระเบีย และการจองที่พักในมักกะห์และมะดินะ เขากล่าวเสริม
อัล-มุดัลลาล กล่าวว่า “การปิดด่านเราะฟะห์และความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ ทำให้ฮุจญาตในกาซากว่า 2,500 ราย รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ที่ร่วมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์หยุดชะงัก”
“กลุ่มนี้คิดเป็นร้อยละ 38 ของฮุจญาตชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด 6,600 คน” เขากล่าว
ความพยายามในการแก้ไขปัญหา
อัล-มูดัลลัลกล่าวว่า กระทรวงกำลังติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ เพื่อจัดการกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “การละเมิดอย่างโจ่งแจ้ง” ต่อสิทธิของฮุจญาตชาวปาเลสไตน์ และเพื่อหาหนทางให้พวกเขาเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์
เขารับรองว่าฮุจญาตที่ได้รับผลกระทบในปีนี้ “จะไม่สูญเสียสิทธิ์ในการทำฮัจญ์ในปีหน้า โดยให้ความสำคัญกับพวกเขาก่อน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลายคนรอมาหลายปีกว่าจะถึงคราว และ 70% เป็นผู้สูงอายุหรือป่วย
ขณะที่ในปีนี้ พระราชกฤษฎีกาของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ ที่ทรงมีพระบรมราชโองการในการเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้แสวงบุญ 500 คนจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในฉนวนกาซา ได้รับการจัดสรรให้แก่ครอบครัวต่างๆ ที่อยู่นอกฉนวนกาซา ตามรายงานของอัล-มุดัลลาล
“กฤษฎีกานี้อนุญาตให้ผู้ที่ออกจากฉนวนกาซาไปประกอบพิธีฮัจย์ได้ โดยรักษาสิทธิของกาซาในการแสดงร่วมประกอบพิธีฮัจญ์” เขากล่าว
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียมีคำสั่งให้เป็นเจ้าภาพต้อนรับฮุจญาต 1,000 คนจากครอบครัวของฮุจญาตที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในฉนวนกาซา โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฮัจย์และอุมเราะห์แขกของกระทรวงกิจการอิสลามของซาอุดีอาระเบีย
ฮุจญาตเหล่านี้ได้รับเลือกจากผู้ที่ออกจากฉนวนกาซาเนื่องจากสงครามหรือเพื่อรับการรักษาพยาบาล
ในเดือนมีนาคม 2023 กระทรวงการกุศลในฉนวนกาซาได้จัดการจับฉลากเพื่อคัดเลือกฮุจญาตสำหรับปี 2023 และ 2024 เนื่องจากมีที่นั่งจำกัดและการปิดล้อมของอิสราเอลที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุและคนป่วยเป็นอันดับแรก
กระทรวงประณามสถานการณ์เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม โดยกล่าวว่าการรุกรานของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง การยึดครองด่านพรมแดนเราะฟะห์ และการปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม ทำให้เทศกาลฮัจญ์ในปีนี้สำหรับในฉนวนกาซาไม่สามารถดำเนินการได้โดยสำเร็จ โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “การละเมิดเสรีภาพทางศาสนาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน”
กระทรวงฯ เรียกร้องให้อียิปต์และซาอุดีอาระเบียกดดันทุกฝ่าย โดยเฉพาะการยึดครองของอิสราเอล เพื่อให้ชาวฉนวนกาซาประกอบพิธีฮัจญ์ได้ในปีนี้ โดยเน้นย้ำถึงผลกระทบทางอารมณ์และการเงินอย่างมีนัยสำคัญต่อฮุจญาตที่ได้รับผลกระทบ
อิสราเอลเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติท่ามกลางการโจมตีอย่างโหดร้ายต่อฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 โดยกลุ่มฮามาสชาวปาเลสไตน์ แม้ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะมีมติเรียกร้องให้หยุดยิงทันทีก็ตาม
ตั้งแต่นั้นมา ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 37,200 คนถูกสังหารในฉนวนกาซา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และอีกกว่า 84,900 คนได้รับบาดเจ็บ ตามการระบุของหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น
แปดเดือนหลังสงครามอิสราเอล พื้นที่อันกว้างใหญ่ในฉนวนกาซาพังทลายลงท่ามกลางการปิดล้อมอาหาร น้ำสะอาด และยารักษาโรค
อิสราเอลถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งคำตัดสินล่าสุดสั่งให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์ทันที ซึ่งชาวปาเลสไตน์กว่าล้านคนได้ขอลี้ภัยจากสงครามก่อนที่จะถูกรุกรานในวันที่ 6 พฤษภาคม