นราฯ แถลงรวมคนร้าย 3 คดีสำคัญในพื้นที่

วันที่ 5 ก.ย.67 ที่ใต้ถุนอาคารกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.วีระยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.จะแนะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 3 คดี

โดยคดีแรกเป็นคดีจี้ชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67 เวลาประมาณ 20.56 น. คนร้ายจำนวน 1 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านขายของชำ เอยูเทรดดิ้ง เลขที่ 4/1 ม.8 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส โดยกล้องวงจรปิดภายในร้านได้บันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ หลังจากได้เงินสดไป 200 บาท คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิง 2 พี่น้อง คือ น.ส.ปวีณา ถิ่นจะนะ และ น.ส.สุดารันตน์ ถิ่นจะนะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

และต่อมาคนร้ายเดียวกันนี้ได้ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านชำ ซัซซูวานี เลขที่ 129/6 ม.4 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งมี น.ส.อาตะก มะแซ เป็นเจ้าของ แต่สามีของ น.ส.อาตีกะ พบเห็นคนร้ายได้ใช้กรอบรูปขว้างใส่คนร้ายพร้อมตะโกนให้ภรรยาหยิบปืน คนร้ายได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งหลบหยีออกจากร้านไป โดยที่ไม่ได้ทรัพย์แต่อย่างใด และระหว่างหลบหนีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าไปในร้าน 2 นัด

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายอิลฮัม เจ๊ะเล๊าะ อายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายยศาลไปบุกจับกุมที่บ้านพัก พร้อมทั้งได้ตรวจยึดของกลาง 5 รายการ ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนแบลงค์กัน พร้อมแม็กกาซีน 2.กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 22 นัด 3.กระเป๋าสะพายสีดำ 4.รองเท้าบผ้าใบสีดำ และ 5. รถ จยย.ยี่ห้อซูซกิ รุ่นอาร์.ซี.สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

โดยนายอิฮัม ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่ไม่เปิดเผยถึงแรงจูงใจที่ก่อเหตุในครั้งนี้ และหลังจากการจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ได้ส่งตรวจพบมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย คือ น.ส.ปวีณา และ น.ส.สุดารัตน์ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

คดีที่ 2. เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ได้ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 396,000 เม็ด ที่บริเวณโกดังไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นช่องทางข้ามธรรมชาติบ้านลูโบะฆง ม.3 ต.ปาเสมัส ซึ่งมีชายวัยรุ่น 2 คนยืนอยู่ข้างรถยนต์เก๋งประเทศมาเลเซีย ยี่ห้อ perodua สีเขียว ทะเบียน pnl 4671 เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบว่าที่บริเวณท้ายรถพบยาบ้าจำนวนดังกล่าวถูกซุกซ่อนไว้ในกระสอบข้าวสารอีกชั้นหนึ่ง และมีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเทา ทะเบียน 1 กฉ 3027 นราธิวาส ซึ่งคาดว่าเป็นของ 2 วัยรุ่นที่วิ่งหลบหนี ส่วนยาบ้าที่ตรวจยึดได้มีมูลค่า 7 ล้านบาท เมื่อผ่านไปยังประเทศมาเลเซีย จะมีมูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว

คดีที่ 3 เป็นคดีลักทรัพย์และทำลายทรัพย์ รวม 4 คดี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 คนร้ายลักทรัพย์ภายในร้านพิธานพานิชย์ สาขาดุซงญอ อ.จะแนะ เป็น รถ จยย.ยี่ห้อออนด้า pcx สีดำ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ทำลายทรัพย์ตู้เติมเงินบุญเติม ที่ติดตั้งไว้หน้าร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี สาขาดุซงญอ อ.จะแนะ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 คนร้ายลักทรัพย์ภายในร้านพิธานพานิชย์ สาขาดุซงญอ อ.จะแนะ ได้รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า pcx สีแดง และเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 คนร้ายลักทรัพย์ภายในร้านพิธานพานิชย์ สาขาตันหยงมัส อ.ระแงะ ได้รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลไปตรวจค้นจับกุมตัว นายสุรินทร์ สมัตถนาค โดยนายสุรินทร์ ให้การยอมรับว่าก่อเหตุจริงและมีร่วมร่วมก่อเหตุอีก 4 คน คือ 1.นายฮาลีกี อาลี 2.นายนิอาแซ หะยีนิซอ 3.นายนิมูฮำหมัดอาเร๊ะ อาแว และ 4.นายกสิกร ซาแม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ นายฮาลีกี นายกสิกร แล้ว ส่วนนายนิมูฮำหมัดอาเร๊ะ และนายนิอาแซ เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับต่อไป ส่วนของกลางที่ตรวจยึดมาได้ เป็นรถ จยย. 2 คัน ส่วนรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีแดง อีก 1 คัน คาดว่าจะเป็น 1 ใน 4 ผู้ที่ร่วมก่อเหตุครอบครองอยู่

ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส

ความคิดเห็น

comments