กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันอังคารว่า หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีนแสดงการสนับสนุนเลบานอนและประณามสิ่งที่เขาเรียกว่า “การโจมตีพลเรือนแบบไม่เลือกหน้า”
อาหรับนิวส์รายงานว่าเมื่อผู้แทนจีนพบกับผู้แทนเลบานอนในนิวยอร์ก หวังกล่าวว่า “เราให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดต่อการพัฒนาในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระเบิดอุปกรณ์สื่อสารในเลบานอนเมื่อไม่นานนี้ และคัดค้านการโจมตีพลเรือนแบบไม่เลือกหน้าอย่างหนักแน่น”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดเหตุระเบิดอุปกรณ์สื่อสารหลายครั้งในเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 รายและบาดเจ็บเกือบ 3,000 ราย
และเมื่อวันจันทร์ การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้สังหารผู้คนไป 492 ราย รวมถึงเด็ก 35 รายและผู้หญิง 58 ราย และทำให้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,645 รายในประเทศ ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน
หวัง อี้ ยอมรับการโจมตีดังกล่าว โดยกล่าวว่าจีน “ประณามอย่างรุนแรงต่อการละเมิดบรรทัดฐานพื้นฐานที่ควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” “ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราจะยืนหยัดเคียงข้างความยุติธรรม เคียงข้างพี่น้องอาหรับของเรา รวมถึงเลบานอนด้วย” หวังกล่าวกับอับดุลลาห์ บู ฮาบิบ รัฐมนตรีต่างประเทศเลบานอน
“กองกำลังติดอาวุธไม่ได้เป็นตัวแทนของความจริง และอาจทำลายสันติภาพได้เท่านั้น” หวัง อี้ กล่าว
“การต่อต้านความรุนแรงด้วยความรุนแรงจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาในตะวันออกกลางได้ และจะนำไปสู่หายนะด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นเท่านั้น” เขากล่าวเสริม
จีนยังเรียกร้องให้พลเมืองของตนออกจากอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ เนื่องจากความตึงเครียดกับเลบานอนเพิ่มมากขึ้น
จีนเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพเพื่อคลี่คลายวิกฤตในฉนวนกาซาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในเดือนกรกฎาคม จีนยังได้เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยข้อตกลง “ความสามัคคีแห่งชาติ” ระหว่างฮามาส ฟาตาห์ และองค์กรปาเลสไตน์อื่นๆ เพื่อปกครองฉนวนกาซาร่วมกันหลังสงคราม