สำนักข่าว Anadolu รายงานว่า ผู้ตั้งถิ่นฐานผิดกฎหมายชาวอิสราเอลจำนวน 1,390 คน บุกเข้าไปในบริเวณมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเยรูซาเล็มที่ถูกยึดครองเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลซุกโคตของชาวยิว
มูลนิธิอิสลามในเยรูซาเล็มที่ดำเนินการโดยจอร์แดน กล่าวว่า ผู้ตั้งถิ่นฐานได้เข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุผ่านประตูมุกราบีในกำแพงด้านตะวันตกของมัสยิดภายใต้การคุ้มครองของตำรวจติดอาวุธอิสราเอล
ตามคำบอกเล่าของพยาน รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล อิตามาร์ เบน กวีร์ ได้เข้าร่วมกับผู้ตั้งถิ่นฐานผิดกฎหมายในพิธีกรรมทัลมุดที่บริเวณดังกล่าว ท่ามกลางข้อจำกัดในการเข้ามัสยิดผู้นับถือศาสนาอิสลามในบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำนักงานของเบน กวีร์ กล่าวว่า รัฐมนตรีหัวรุนแรงไม่ได้เข้าไปในบริเวณดังกล่าว แต่ต้อนรับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลที่ทางเข้าบริเวณดังกล่าว
ตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา อิสราเอลอนุญาตให้ผู้ตั้งถิ่นฐานผิดกฎหมายเข้าไปในบริเวณที่มัสยิดอัลอักซอได้เกือบทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์และวันเสาร์
มัสยิดอัลอักซอเป็นสถานที่สำคัญอันดับสามของโลกมุสลิม ขณะที่ชาวยิวอ้างว่าบริเวณนี้คือ “เทมเพิลเมาท์” โดยอ้างว่าเป็นที่ตั้งของวิหารของชาวยิวสองแห่งในสมัยโบราณ
อิสราเอลยึดครองเยรูซาเล็มตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักซอระหว่างสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 1967 และผนวกเมืองทั้งหมดในปี 1980 ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก ขณะที่ศาลโลกออกคำแนะนำว่าการกระทำดังกล่าวผิดตามกฎหมายอาชญากรรมสงคราม