อิหร่านเร่งคุยตุรกี-รัสเซีย หลังฝ่ายต่อต้านบุกยึดเมืองทางเหนือของซีเรีย

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเรียกร้องให้มีการประชุมสุดยอดระหว่างเตหะราน ตุรกี และรัสเซีย เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ซีเรียที่เกิดขึ้น ท่ามกลางการกลับมาโจมตีอีกครั้งของกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านทั่วประเทศ

เมื่อเช้านี้ อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เดินทางเยือนกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี เพื่อหารือกับฮาคาน ฟิดาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและการพัฒนาในภูมิภาคของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการฟื้นคืนของความขัดแย้งในซีเรียเมื่อเร็วๆ นี้

การเยือนตุรกีของอาราฆชีเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากเดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ซึ่งเขาได้พบกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และรับรองว่าอิหร่านจะสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลซีเรียในการพยายามต่อต้านการรุกครั้งใหม่ที่กลุ่มนักรบที่นำโดยกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม(HTS) ซึ่งมีฐานอยู่ในเมืองอิดลิบเป็นส่วนใหญ่ โดยกลุ่มดังกล่าวยึดครองพื้นที่ได้จำนวนมากอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในการแถลงข่าวร่วมกันภายหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ได้เน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลอิหร่านที่สนับสนุนการรักษาและผลักดันความสำเร็จของการเจรจาสันติภาพอัสตานาเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรียที่กินเวลานาน 13 ปี ในเรื่องนั้น เขากล่าวว่าคณะผู้แทนอิหร่านเห็นด้วยกับคู่เจรจาอย่างตุรกีว่า อิหร่าน ตุรกี และรัสเซียควรพบกันโดยเร็วที่สุดในระดับกระทรวงต่างประเทศของตนเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในซีเรีย

ในส่วนของ รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี เขาแสดงความตั้งใจของอังการาที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับอิหร่านในด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และความมั่นคง รวมถึงความพยายามต่อต้านการก่อการร้าย นักการทูตตุรกียังแสดงความกังวลต่อการแพร่กระจายของความไม่มั่นคงในซีเรีย โดยเตือนถึงผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ประณามกลุ่มนักรบซีเรียว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ไม่เหมือนกับคู่เจรจาอย่างอิหร่าน

ยังไม่มีการเปิดเผยหรือยืนยันวันที่แน่นอนว่าการเจรจาไตรภาคีเพิ่มเติมเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรียจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่การเรียกร้องให้มีการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการประชุมครั้งที่ 22 ในการเจรจาสันติภาพอัสตานาที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของคาซัคสถานเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน

นักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียเริ่มเตรียมการยึดเมืองอาเลปโปเมื่อปีที่แล้ว แต่ปฏิบัติการดังกล่าวล่าช้าเนื่องจากสงครามในฉนวนกาซา และในที่สุดก็เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์มีผลบังคับใช้ในเลบานอน ตามการเปิดเผยของแกนนำฝ่ายต่อต้านซีเรียในต่างประเทศกับรอยเตอร์

กลุ่มนักรบสามารถยึดเมืองและบางส่วนของจังหวัดอิดลิบที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฮิซบอลเลาะห์และนักรบคนอื่นๆ เสียสมาธิไปกับความขัดแย้งกับอิสราเอล ฮาดี อัล-บาห์รา กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์

กองทัพตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียบางส่วน และมีฐานทัพอยู่บริเวณชายแดนทางใต้ของซีเรีย ได้ยินแผนการของกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้มาบ้างแล้ว แต่ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีบทบาทโดยตรง เขากล่าวเสริม

การโจมตีในซีเรียตะวันตกเฉียงเหนือเริ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่อิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน เริ่มทำข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการสู้รบที่ดำเนินมานานกว่าหนึ่งปี

“เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาเริ่มฝึกฝนและระดมกำลังอย่างจริงจังกับเรื่องนี้มากขึ้น” ฮาดี อัล-บาห์รา ประธานกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติเพื่อการปฏิวัติซีเรีย และกองกำลังฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นกลุ่มฝ่ายค้านซีเรียที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ กล่าว

“แต่สงครามในฉนวนกาซา […] และสงครามในเลบานอนทำให้ปฎิบัติการล่าช้า พวกเขารู้สึกว่าคงไม่ดีนักหากต้องเกิดสงครามในเลบานอนในเวลาเดียวกับที่พวกเขากำลังสู้รบในซีเรีย” เขากล่าวในสำนักงานของเขาในอิสตันบูล ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณะครั้งแรกเกี่ยวกับการเตรียมการของกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านโดยบุคคลสำคัญฝ่ายค้าน

“ดังนั้น ทันทีที่มีการหยุดยิงในเลบานอน พวกเขาก็พบโอกาส […] ที่จะเริ่มต้น”

ปฏิบัติการของกลุ่มนักรบถือเป็นการรุกคืบที่กล้าหาญที่สุดและเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียในรอบหลายปีในสงครามกลางเมืองที่แนวหน้าถูกหยุดชะงักเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ปี 2020

กองกำลังซีเรีย และพันธมิตรรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้ ซึ่งแกนนำฝ่ายต่อต้านกล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวกำลัง “ทำให้เมืองอาเลปโป และอิดลิบไม่มั่นคง” และเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับพลเรือน เนื่องจากการรุกคืบก่อนหน้านี้ของกลุ่มนักรบได้พยายามอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียดังกล่าว

การที่กลุ่มต่อต้านยึดเมืองอาเลปโปคืนได้ยังช่วยเปิดทางให้ชาวซีเรียหลายแสนคนที่พลัดถิ่นฐานในที่อื่นๆ ในประเทศและในตุรกีได้กลับบ้าน แกนนำฝ่ายต่อต้านซีเรียกล่าว

“เนื่องจากสงครามในเลบานอนและจำนวนกองกำลังฮิซบอลเลาะห์ที่ลดลง ระบอบการปกครองของ (อัสซาด) จึงได้รับการสนับสนุนน้อยลง” เขากล่าว และเสริมว่ากองกำลังติดอาวุธอิหร่านก็มีทรัพยากรน้อยลง ในขณะที่รัสเซียให้การคุ้มครองทางอากาศน้อยลงเนื่องจาก “ปัญหาในยูเครน”

ดามัสกัสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นทันทีว่ากลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านพยายามหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตหรือไม่ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ภูมิภาคนี้เกิดความไม่มั่นคงด้วยการโจมตีทางอากาศหรือไม่ อัสซาดให้คำมั่นว่าจะบดขยี้กลุ่มนักรบและได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศแล้ว

ฮิซบุลเลาะห์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นทันทีว่าสงครามกับอิสราเอลได้เปิดประตูให้กลุ่มนักรบซีเรียรุกคืบในอาเลปโปหรือไม่ ซึ่งกลุ่มนักรบมีกำลังพลอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว

เตหะรานให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือรัฐบาลซีเรีย และในวันจันทร์ นักรบจากกองกำลังติดอาวุธอิรักหลายร้อยคนได้ข้ามเข้าไปในซีเรียเพื่อช่วยต่อสู้กับกลุ่มกบฏ แหล่งข่าวในซีเรียและอิรักกล่าว

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของตุรกีกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตุรกีกำลังเฝ้าติดตามการระดมพลอย่างใกล้ชิดและดำเนินการป้องกันกองกำลังของตน

กลุ่มนักรบเป็นกลุ่มพันธมิตรของกลุ่มฝ่ายค้านหลักที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี ซึ่งนำโดย ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม(HTS) ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบที่ตุรกี สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และรัฐอื่นๆ กำหนดให้เป็นกลุ่มก่อการร้าย

กลุ่มพันธมิตรของแกนนำฝ่ายต้านซึ่งไม่รวม HTS เป็นตัวแทนของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอัสซาด รวมถึงกองทัพแห่งชาติซีเรียหรือกองทัพซีเรียเสรีที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี ซึ่งเข้ายึดครองดินแดนทางตอนเหนือของเมืองอิดลิบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กลุ่มพันธมิตรจัดการเจรจาทางการทูตอย่างต่อนเนื่องกับสหประชาชาติและรัฐต่างๆ

ความคิดเห็น

comments