รายงานจากสื่อหลายสำนักระบุว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำเผด็จการซีเรีย ขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางออกจากประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้น 12 วันหลังจากที่เกิดเหตุโจมตีของนักรบฝ่ายต่อต้านโดยกะทันหัน และพุ่งตรงมายังกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย หลังจากยึดเมืองสำคัญหลายแห่งระหว่างทางได้สำเร็จ ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานที่ยังไม่ยืนยันว่าเครื่องบินที่ประธานาธิบดีอัสซาดโดยสาร เพื่อเดินทางหลบหนีนั้นถูกยิงตกหรือมีปัญหาทางเทคนิค และตกลงมาเหนือดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของรามี อับดุลเราะห์มาน จากองค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) อับดุลเราะห์มานกล่าวกับเอพีว่า ประธานาธิบดีอัสซาดเดินทางออกจากกรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สำนักข่าว Step รายงานบนทวิตเตอร์ว่า “บาชาร์ อัล อัสซาด เดินทางไปรัสเซียกับครอบครัว และคาดว่าจะแถลงลาออกในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า”
เราต้องเน้นย้ำว่าสถานการณ์ยังไม่แน่นอน และชีวิตของอัสซาดยังคงน่าสงสัยในเวลานี้ ข้อมูลใหม่นี้อาจเปลี่ยนแปลงเรื่องราวที่สื่อต่างๆ เผยแพร่ในขณะนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า การที่อัสซาดหลบหนีเกิดขึ้นในขณะที่กลุ่มนักรบที่นำโดยกลุ่ม HTS บุกเข้าไปในกรุงดามัสกัส
“ฝ่ายต่างๆ ในซีเรียประกาศเมื่อเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดได้เดินทางออกจากกรุงดามัสกัสแล้ว โดยเรียกร้องให้ผู้พลัดถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศกลับคืนสู่ “ซีเรียเสรี” หลังจากประกาศว่าดามัสกัส ได้รับการปลดปล่อย แล้ว ขณะที่ผู้บัญชาการกองบริหารปฏิบัติการทางทหารได้ออกคำสั่งให้กองกำลังของเขาในกรุงดามัสกัสอยู่ห่างจากสถาบันสาธารณะ” “กลุ่มต่างๆ กล่าวในข้อความที่เผยแพร่ผ่านเทเลแกรมว่า บาชาร์ อัล-อัสซาดได้หลบหนี และ ‘เราประกาศให้เมืองดามัสกัสเป็นอิสระ’ โดยเสริมว่า ‘หลังจาก 50 ปีแห่งการกดขี่ภายใต้การปกครองของพรรคบาอัธ และ 13 ปีแห่งการปกครองแบบเผด็จการ’”
สถานีโทรทัศน์ Press TV ของอิหร่านยืนยันการสิ้นสุดของระบอบการปกครองของอัสซาดด้วย
“กองทัพซีเรียแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าการปกครองของประธานาธิบดีอัสซาดสิ้นสุดลงแล้ว” สถานีโทรทัศน์ Press TV รายงานบนเทเลแกรม “กองทัพซีเรียแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าการปกครองของประธานาธิบดีอัสซาดสิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากกลุ่มนักรบบุกเข้าสู่กรุงดามัสกัส เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว”
มีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเครื่องบินขนส่ง IL-76 Ilyushin ที่คาดว่าอัสซาดโดยสารอยู่ถูกยิงตกหรือประสบปัญหาทางเทคนิค จากตำแหน่งที่เครื่องบินลำนี้ อาจเป็นเครื่องบินที่พยายามเข้าถึงฐานทัพอากาศของรัสเซียในลาตาเกีย ซีเรีย ซึ่งถือเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับผู้นำเผด็จการของซีเรียมานาน
“มีข้อมูลที่ไม่ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับการที่เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งบรรทุกประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ตกลงมาอย่างกะทันหันหลังจากที่หายไปจากเรดาร์และตกลงมาจากระดับความสูงกว่า 3,650 เมตรลงมาเหลือเพียง 1,070 เมตรในเวลาไม่กี่นาที นอกน่านฟ้าเลบานอนทางเหนือของเมืองอัคการ์” นักข่าวอียิปต์ คาลิด มาห์มูเอ็ด โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ “ข้อมูลเรดาร์การบิน ของเครื่องบินที่ต้องสงสัยว่าบรรทุกประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ระบุว่าเครื่องบินตก ส่วนเครื่องบินรุ่น IL-76 ของสายการบิน Syrian Air ตกลงมาอย่างกะทันหัน และดูเหมือนว่าเครื่องบินจะถูกยิงตก”
ข้อมูลการบิน 3 มิติจาก FlightRadar24 ระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวตก
“เราไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในซีเรีย” เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับ The War Zone เพื่อตอบคำถามของเราเกี่ยวกับการหลบหนีของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และสถานะของเครื่องบิน “แม้ว่าเราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ภารกิจของสหรัฐฯ ในซีเรียยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อทำเนียบขาว”
จัตุรัสโอไมยัดในใจกลางกรุงดามัสกัสเป็นสถานที่แห่งการเฉลิมฉลองที่ประชาชนแสดงความดีใจกับการล่มสลายของอัสซาด
กองทัพซีเรียเสรีที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีเดินทางมาถึงใจกลางกรุงดามัสกัสและถูกพบเห็นว่ายึดครองจัตุรัสโอไมยัด
ถนนหนทางในกรุงดามัสกัสเต็มไปด้วยเครื่องแบบทหารอาหรับซีเรียที่กองทหารเคยภักดีต่ออัสซาดถูกนำออกมาทิ้ง
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน มีรายงานว่าเห็นรถถังมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสโอไมยัด ซึ่งนำไปสู่จุดยุทธศาสตร์หลายแห่ง รวมถึงทำเนียบประธานาธิบดี
มีรายงานว่าทหารของอัสซาดบางส่วนหลบหนีไปทางตะวันออกข้ามชายแดนเข้าไปในอิรัก
ก่อนที่อัสซาดจะออกเดินทางไม่กี่ชั่วโมง TWZ ได้โพสต์ภาพที่แสดงให้เห็นสัญญาณการอพยพที่อาจเกิดขึ้นที่ฐานทัพอากาศ Khmeimim ของรัสเซียในซีเรีย เครื่องบินขนส่งหลายลำมาถึงฐานทัพดังกล่าว รวมถึง IL-76 และ AN-124 โดย An-72 มักจะประจำการอยู่ด้านหน้าที่นั่น นอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่าจะมี Su-24 อยู่บนรันเวย์ด้วย การย้ายฐานทัพทางอากาศครั้งนี้มีความเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อไม่กี่วันก่อน
เหตุการณ์ในวันนี้สิ้นสุดลงด้วยการลุกฮือที่กองกำลังต่อต้านรัฐบาลเข้ายึดเมืองอาเลปโป จากนั้นก็ยึดเมืองฮามาและโฮมส์ในภาคกลางของประเทศอย่างรวดเร็ว ขณะที่กองกำลังป้องกันซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และนำโดยชาวเคิร์ดเข้ายึดเมืองต่างๆ ทางตอนเหนือและตะวันออกของซีเรีย และกองกำลังติดอาวุธดรูซเข้ายึดครองดินแดนที่เคยเป็นของระบอบการปกครองในตอนใต้
สถานะของดินแดนอลาวีบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือ และฐานทัพของรัสเซียในซีเรีย ยังคงไม่ชัดเจน อัสซาดเป็นอลาวี และเขาได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งภายในโครงสร้างอำนาจของซีเรีย สถานีข่าวทางการของซีเรีย SAMA-TV รายงานบน Telegram ว่ากองกำลังที่ภักดีต่ออัสซาดไม่ได้ถอนกำลังออกไป
“ไม่มีความจริงในข่าวที่เผยแพร่โดยแพลตฟอร์มของสื่อก่อการร้ายเกี่ยวกับการถอนกำลังทหารจากชนบททางตอนเหนือของลาตาเกีย และกองบัญชาการทหารสูงสุดยืนยันว่าข่าวทั้งหมดนี้เป็นเท็จ” SAMA-TV อ้าง
ขณะที่นายกรัฐมนตรีซีเรีย โมฮัมหมัด กาซี อัล-จาลาลี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาอยู่ที่บ้าน และพร้อมที่จะสนับสนุนความต่อเนื่องของการปกครอง หลังจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด หลบหนีจากกรุงดามัสกัส ขณะที่กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านบุกเข้าสู่เมืองหลวง
นอกจากนี้อัลอาระบียะห์รายงานว่า กองกำลังผสมฝ่ายบริหารการปฏิบัติการทางทหารกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขายังคงทำงานต่อไปเพื่อให้การถ่ายโอนอำนาจในซีเรียเสร็จสิ้นไปยังหน่วยงานบริหารช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีอำนาจบริหารเต็มรูปแบบ
“การปฏิวัติครั้งใหญ่ของซีเรียได้เปลี่ยนจากเวทีแห่งการต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบการปกครองของอัลอัสซาด ไปสู่การต่อสู้เพื่อสร้างซีเรียร่วมกันที่สมกับการเสียสละของประชาชน” กองกำลังผสมระบุในแถลงการณ์
