สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ UAE ถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมบนเกาะโซโคตราของเยเมนด้วยการนำต้นกล้าพืชผลทางการเกษตรเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่เข้ายึดครองเกาะแห่งนี้ในปี 2017 ผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นได้ประณามบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่แจกจ่ายต้นกล้าหลายพันต้นซึ่งคุกคามระบบนิเวศที่เปราะบางของเกาะโซโคตรา ตามรายงานของสำนักข่าวเยเมน YPA
บริษัท Eastern Triangle Holding ที่เป็นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่งเปิดตัวโครงการแจกจ่ายต้นกล้ากว่า 8,000 ต้น ซึ่งรวมถึงแตงแคนตาลูป แตงโม พริก มะเขือเทศ บวบ และมะเขือยาว
ต้นกล้าเหล่านี้ถูกส่งมอบให้กับผู้นำท้องถิ่นเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับครอบครัวเกษตรกร โดยอ้างว่าเป็นการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นเกรงว่าการกระทำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาจสร้างความเสียหายอย่างถาวรต่อความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่มีใครเทียบได้นี้
“สิ่งนี้เหมือนกับการขายน้ำซัมซัมในมักกะห์” Ahmed Al Rumaili หัวหน้ามูลนิธิ Socotra Foundation for Cultural and Natural Heritage กล่าว พร้อมเสริมว่า “โซโคตราเป็นสวนธรรมชาติอันกว้างใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของพืชมากกว่า 800 ชนิด รวมถึงมากกว่า 100 ชนิดที่ไม่พบในที่อื่นใดในโลก”
เมื่อปีที่แล้ว การสำรวจภาคสนามของ UNESCO ยืนยันว่าพืชรุกราน ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาเพื่อการเกษตรหรือเพื่อการตกแต่ง เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและความหลากหลายทางชีวภาพของโซโคตรา โดยระบุพืชและแมลงต่างถิ่นอย่างน้อย 126 ชนิด ทำให้มีความกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศเฉพาะตัวของเกาะ
ความโดดเดี่ยวของโซโคตราทำให้เกิดจุดรวมของความหลากหลายทางชีวภาพ โดยพืชร้อยละ 37 แมลงร้อยละ 42 และหอยทากบกร้อยละ 98 ไม่พบในที่อื่นใดในโลก
นอกจากนี้ หมู่เกาะแห่งนี้ยังมีสัตว์ทะเลที่น่าทึ่ง โดยมีปะการังสร้างแนวปะการัง 253 ชนิดและปลาชายฝั่ง 729 ชนิด
