นักข่าวและนักวิเคราะห์การเมืองชาวอิสราเอล บารัค ราวิด เปิดเผยว่า รัฐอิสราเอลผู้ยึดครองส่งข้อความถึงกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัลชาม (HTS) ส่งผลให้ฝ่ายต่อต้านซีเรียโจมตีระบอบการปกครองที่ถูกโค่นอำนาจและประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดแบบสายฟ้าแลบ
ราวิดให้สัมภาษณ์กับเครือข่ายข่าว CNN ของสหรัฐฯ ว่าข้อความที่อิสราเอลส่งถึงองค์กรดังกล่าวมาจากสามฝ่าย โดยมีคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้ชายแดนอิสราเอล
เขาย้ำว่ากองทัพยึดครองอิสราเอลจะดำเนินการกับกลุ่ม HTS หากเข้าใกล้ชายแดน
นักข่าวอิสราเอลกล่าวเสริมว่า รัฐผู้ยึดครองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหลายกลุ่มในซีเรีย โดยเฉพาะกลุ่มชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของประเทศ รวมถึงกับชุมชนดรูซในซีเรียบริเวณที่ราบสูงโกลัน โดยกล่าวว่า “เมื่อพูดถึงชาวดรูซในซีเรีย อิสราเอลได้แจ้งต่อชุมชนดรูซในอิสราเอลว่าพวกเขาจะเข้าแทรกแซงหากชุมชนดรูซในซีเรียถูกคุกคาม”
ราวิดตั้งข้อสังเกตว่ารัฐที่ยึดครองกำลังแสดงความสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับกลุ่ม HTS และมีความสงสัยมากกว่าที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐอเมริกาหรือประเทศต่างๆ ในยุโรประบุต่อกลุ่มนี้มาก
นักข่าวแนะนำว่าขณะนี้รัฐที่ยึดครองกำลังพยายามลดทอนศักยภาพของกองทัพซีเรียที่เหลืออยู่ โดยอธิบายว่าอิสราเอลได้เพิ่มการโจมตีทางอากาศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มากกว่า 400 ครั้ง ส่งผลให้กองกำลังทางอากาศและทางทะเลของซีเรียเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังทำลายคลังอาวุธและโครงการอาวุธเคมีของซีเรียอีกด้วย
ราวิดเน้นย้ำว่ารัฐที่ยึดครองจะยังคงทิ้งระเบิดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหลืออยู่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงเป้าหมายในท้ายที่สุดที่จะทำให้กองทัพซีเรียอ่อนแอลง เขาตั้งข้อสังเกตว่าอิสราเอลตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้แน่ใจว่าฝ่ายใดก็ตามที่ควบคุมซีเรียในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะต้องใช้เวลาในการสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่เป็นเวลานาน ทำให้กองทัพมีศักยภาพในการเป็นภัยคุกคามน้อยลง
