นายกรัฐมนตรีเอดี รามา แห่งแอลเบเนีย ปฏิเสธรายงานของสื่ออิสราเอลที่ระบุว่ารัฐบาลของเขาได้หารือกับฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ถึงความเป็นไปได้ที่จะรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซามากถึง 100,000 คน
“ผมไม่ได้ยินข่าวปลอมแบบนี้มานานแล้ว และล่าสุดก็มีข่าวปลอมมากมาย! ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน” รามาโพสต์บน X
ผู้นำแอลเบเนียแสดง “ความเคารพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างเต็มที่ต่อประชาชนในฉนวนกาซา ซึ่งถูกระบอบการปกครองของฮามาสที่โหดร้ายทารุณ และต้องทนทุกข์กับสงครามอันโหดร้ายท่ามกลางปีที่สองของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา” แต่ชี้แจงว่าแอลเบเนียไม่ได้รับการร้องขอจากใครให้รับผู้ลี้ภัย และแอลเบเนีย “ไม่สามารถพิจารณารับผิดชอบใดๆ เช่นนั้นได้”
รามาเน้นย้ำถึง “มิตรภาพอันแน่นแฟ้น” ของแอลเบเนียกับอิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ คูเวต และ “ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งแอลเบเนียรับรองสถานะของพวกเขามาเป็นเวลานานมากแล้ว” เขาย้ำว่าแอลเบเนียในฐานะประเทศในยุโรปไม่ได้ตั้งอยู่ในตะวันออกกลางและไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปในเรื่องนี้
“อย่างไรก็ตาม เราหวังและภาวนาว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตในรัฐของตนเองในฐานะประชาชนที่เป็นอิสระภายใต้การปกครองแบบประชาธิปไตย และฮามาสจะไม่มีวันทำร้ายอิสราเอลได้อีกต่อไป หรือเหนือสิ่งอื่นใดคือชาวปาเลสไตน์เอง” เขากล่าวสรุป
ก่อนหน้านี้ สื่ออิสราเอลรายงานว่าเทลอาวีฟมองว่าข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ให้จอร์แดนและอียิปต์ยอมรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์นั้นไม่สมจริง ทำให้วอชิงตันพิจารณาทางเลือกอื่นๆ รวมถึงแอลเบเนีย ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อแก้ไขวิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซา


