อิสราเอลทำลายบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์หลายหลังในเยรูซาเล็มตะวันออกที่ถูกยึดครองในช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของชาวมุสลิม ซึ่งถือเป็นการทำลายครั้งแรกในรอบหลายปี ตามรายงานขององค์กร NGO อิสราเอล
Ir Amim ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต่อต้านการสร้างนิคมของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง กล่าวว่าอาคารที่พักอาศัย 4 หลังในเยรูซาเล็มตะวันออกถูกทำลายในสัปดาห์แรกของเดือนรอมฎอน
“เป็นเวลาหลายปีที่อิสราเอลงดเว้นการทำลาย [ในเยรูซาเล็มตะวันออก] ในช่วงเดือนรอมฎอนเนื่องจากมีความอ่อนไหวทางศาสนา” กลุ่มดังกล่าวระบุในแถลงการณ์
กลุ่มดังกล่าวระบุว่าการทำลายดังกล่าวเกิดขึ้นใน Beit Hanina ทางตอนเหนือของเยรูซาเล็มตะวันออก และ Issawiya ในส่วนตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองที่ถูกยึดครอง
“เป็นครั้งแรกที่อิสราเอลละเมิดแนวทางปฏิบัติที่มีมายาวนานด้วยการรื้อถอนบ้านเรือนแม้กระทั่งในช่วงรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนสำคัญสำหรับชาวมุสลิมหลายล้านคนทั่วโลก” Avi Tatarsky นักวิจัยของ Ir Amim กล่าว
ตามข้อมูลขององค์กรดังกล่าว พบว่าเมื่อปีที่แล้ว อิสราเอลได้รื้อถอนบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ในเยรูซาเล็มตะวันออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปี 2023
จนถึงขณะนี้ อิสราเอลได้รื้อถอนอาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ในเยรูซาเล็มตะวันออกไปแล้วอย่างน้อย 46 หลังนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ตามการเปิดเผยของ Ir Amim
“แทนที่จะรื้อถอนอย่างรุนแรง ถึงเวลาแล้วที่จะพัฒนาแผนแม่บทที่อนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับใบอนุญาตการก่อสร้างที่ถูกกฎหมาย” องค์กร Ir Amim กล่าวเสริม
ทางการอิสราเอลใช้การไม่มีใบอนุญาตการก่อสร้างเป็นข้ออ้างในการรื้อถอน ชาวปาเลสไตน์ระบุว่าการกระทำเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของอิสราเอลในวงกว้างต่อเยรูซาเล็มตะวันออก
อิสราเอลยึดครองเยรูซาเล็มตะวันออกระหว่างสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 1967 และผนวกเมืองทั้งหมดในปี 1980 โดยที่ประชาคมระหว่างประเทศไม่เคยยอมรับ
ขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วว่าการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลมายาวนานเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้มีการอพยพผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวทั้งหมดออกจากเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก