คณะผู้แทนชาวดรูซซีเรียประมาณ 100 คนเดินทางถึงอิสราเอลเพื่อเยือนอิสราเอลเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนครั้งแรกในรอบกว่า 5 ทศวรรษ ตามรายงานของสถานีวิทยุกระจายเสียงสาธารณะอิสราเอล KAN
รายงานระบุว่าการเยือนครั้งนี้ประสานงานกับชีคโมวาฟัก ทารีฟ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวดรูซในอิสราเอล โดยคาดว่าคณะผู้แทนจะเยือนสถานที่ทางศาสนาในเขตที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครองและทางตอนเหนือของอิสราเอล
นับเป็นการเยือนครั้งที่สองนับตั้งแต่ก่อตั้งอิสราเอลในปี 1948 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1973 KAN ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าร่วม
คณะผู้แทนจะพบปะกับทารีฟและบุคคลสำคัญชาวดรูซคนอื่นๆ ในอิสราเอล นอกจากนี้ คณะผู้แทนยังจะเยือนสถานที่ต่างๆ เช่น สุสานของศาสดาเจโธร และหมู่บ้านดรูซแห่งเปกีอิน
ยังไม่ชัดเจนว่าคณะผู้แทนจะประชุมกับรัฐบาลอิสราเอลหรือเจ้าหน้าที่ทหารหรือไม่
ยังไม่มีการตอบสนองอย่างเป็นทางการจากทางการซีเรียหรือผู้นำชาวดรูซในซีเรียเกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้
การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่อิสราเอลกล่าวอ้างเมื่อไม่นานมานี้ว่าเครื่องบินรบของอิสราเอลถูกส่งไปประจำการในซีเรียเพื่อ “ปกป้องชาวดรูซซีเรีย”
คำกล่าวอ้างดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงในหมู่ชาวดรูซซีเรีย ซึ่งปฏิเสธอย่างเปิดเผยต่อการแทรกแซงกิจการภายในของซีเรียของอิสราเอล ผู้ประท้วงยังย้ำเรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารออกจากดินแดนซีเรียที่ถูกยึดครองทั้งหมด
ตั้งแต่การโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเมื่อเดือนธันวาคม อิสราเอลได้ยกระดับการโจมตีทางทหารในซีเรีย
รัฐบาลซีเรียชุดใหม่ซึ่งนำโดยผู้นำชั่วคราวอย่างอะหมัด อัล-ชารา เรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้ยุติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลและถอนทหารออกจากดินแดนซีเรียทั้งหมด
อิสราเอลยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบสูงโกลันมาตั้งแต่ปี 1967 หลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของซีเรีย อิสราเอลได้ขยายการควบคุมดินแดน รวมถึงเข้าไปในเขตปลอดทหาร และได้โจมตีทางอากาศหลายร้อยครั้งเพื่อโจมตีฐานทัพทหารซีเรีย



