ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและสหรัฐฯ อาจได้รับแรงผลักดันใหม่ในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่สอง ประธานาธิบดีรอยับ ตอยยิป เออร์โดกันของตุรกีกล่าว
เออร์โดกันกล่าวที่กรุงอังการาภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าในการโทรศัพท์คุยกันอย่างเป็นกันเองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาและทรัมป์ได้หารือในประเด็นสำคัญหลายประเด็น รวมถึงการขจัดอุปสรรคทั้งหมดต่อเป้าหมายการค้ามูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างสองประเทศ
ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวเสริมว่าเขาและทรัมป์ยังได้หารือเกี่ยวกับ “การพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาค” โดยเฉพาะในซีเรีย
เออร์โดกันกล่าวว่า “แม้จะมีความยากลำบากมากมายในภูมิภาค แม้จะมีกลุ่มล็อบบี้ที่พยายามทำลายความร่วมมือระหว่างสองพันธมิตร” เขาก็เชื่อว่าตุรกีและสหรัฐฯ จะและต้องจัดการให้ร่วมมือกัน “เพื่อประโยชน์ของภูมิศาสตร์ทั้งหมดของเรา”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในการโทรศัพท์คุยกัน เออร์โดกันแสดงความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าอังการาและวอชิงตันจะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีผ่านความสามัคคี แนวทางที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ และด้วยความจริงใจในยุคใหม่ของความสัมพันธ์
ในช่วงวาระแรกของรัฐบาลทรัมป์ สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลตุรกี 2 คน กรณีกักขังบาทหลวงชาวอเมริกัน ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองรัฐเพิ่มสูงขึ้น ต่อมาสหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรด้านอื่นๆ อีก หลังจากอังการาตกลงซื้ออาวุธจากรัสเซีย