ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ยืนยันว่าการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขาตั้งแต่กลับมาประจำทำเนียบขาวน่าจะรวมถึงการเยือนซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ซึ่งอาจเร็วสุดคือเดือนพฤษภาคม
“อาจเป็นเดือนหน้าหรืออาจจะช้ากว่านั้นเล็กน้อย” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องโอวัลออฟฟิศเมื่อวานนี้ “เรากำลังจะไปกาตาร์ด้วย และอาจจะไปอีกหลายประเทศด้วย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศที่สำคัญมาก ดังนั้นเราอาจจะแวะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์”
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ Axios รายงานว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวมีแผนเยือนซาอุดีอาระเบียในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยทรัมป์ได้ไปเยือนริยาด และเทลอาวีฟเป็นครั้งแรกในต่างแดนระหว่างดำรงตำแหน่งครั้งแรกในปี 2017
ขณะนี้ อิสราเอลไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางครั้งนี้ ตามที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุ โดยดูเหมือนว่าจะเน้นไปที่เศรษฐกิจ โดยทรัมป์กล่าวยกย่องการลงทุนจากซาอุดีอาระเบียที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ผมมองว่าเป็นเรื่องของงานมากกว่าสิ่งอื่นใด และตอนนี้เรามีเงินเกือบล้านล้านดอลลาร์แล้ว” ทรัมป์กล่าว “ดังนั้นมันจึงมากกว่าสองเท่าของจำนวนที่เราทำได้เมื่อครั้งที่ผมเข้ารับตำแหน่งครั้งแรก”
ในเดือนมกราคม มกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนข้อตกลงการค้าและการลงทุนใหม่มูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับสหรัฐ ทรัมป์ระบุว่าการเดินทางครั้งต่อไปนี้ บริษัทอเมริกันจะจัดหาอุปกรณ์ให้กับซาอุดีอาระเบียและที่อื่นๆ ในภูมิภาค “และสำหรับสิ่งนั้น ผมคิดว่ามันคุ้มค่า”
แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาลับเกี่ยวกับการยุติสงครามยูเครนด้วย แต่ทรัมป์ไม่ได้พูดถึงการประชุมสุดยอดที่วางแผนไว้กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินระหว่างการเดินทางครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เขาแสดงความเชื่อมั่นว่าในที่สุดแล้ว ปูตินจะสนับสนุนการหยุดยิง
