ชาวอิสราเอลหลายพันคนออกมาชุมนุมที่ใจกลางกรุงเทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์ เพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวประกันกลับคืนสู่ฉนวนกาซา แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยการยุติสงครามในฉนวนกาซาก็ตาม ตามรายงานของสำนักข่าวอนาโดลู
หนังสือพิมพ์ Yedioth Ahronoth รายงานว่ามีผู้คนนับพันรวมตัวกันที่จัตุรัสตัวประกัน รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของเชลยศึกหลายร้อยคน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยืนยันอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะไม่ยุติสงครามที่ดำเนินมา 19 เดือนนี้ จนกว่า “ศักยภาพทางพลเรือนและทางทหารของกลุ่มฮามาสจะถูกกำจัดจนหมดสิ้น”
ในข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้า เนทันยาฮูยังกล่าวถึงการจัดตั้ง “เขตปลอดภัย” ในเลบานอนและซีเรีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของทั้งสองประเทศ
“กลุ่มฮามาสปฏิเสธข้อเสนอที่จะปล่อยตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ครึ่งหนึ่งและศพของผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเรียกร้องให้ยุติสงคราม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” เขากล่าว
คาลิล อัล-ไฮยา ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ประกาศเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีว่ากลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเริ่ม “การเจรจาแบบครอบคลุม” กับเทลอาวีฟทันที เพื่อปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด โดยแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์จำนวนหนึ่งที่ตกลงกันไว้ การยุติสงคราม การถอนทหารอิสราเอลออกจากฉนวนกาซาทั้งหมด การเริ่มต้นการฟื้นฟู และการยกเลิกการปิดล้อม
เนทันยาฮูยังย้ำถึง “ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่” ของอิสราเอลในการป้องกันไม่ให้อิหร่านได้รับอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านยังคงดำเนินต่อไปในกรุงโรม
ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 51,000 คนถูกสังหารในฉนวนกาซาจากการโจมตีอย่างโหดร้ายของอิสราเอลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและโยอัฟ กัลลันต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมในข้อหาอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในฉนวนกาซาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
อิสราเอลยังต้องเผชิญกับคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในข้อหาทำสงครามกับดินแดนดังกล่าว