มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า วอชิงตันสนับสนุนความพยายามที่จะช่วยให้รัฐบาลซีเรียชุดใหม่ประสบความสำเร็จ พร้อมเตือนว่าหากความพยายามล้มเหลวอาจนำไปสู่สงครามและความไม่มั่นคงในภูมิภาคได้ ตามรายงานของสำนักข่าวอนาโดลู
“เราต้องการช่วยให้รัฐบาล(ซีเรีย)นั้นประสบความสำเร็จ เพราะทางเลือกอื่นก็คือสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบและความโกลาหล ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งภูมิภาคไม่มั่นคงอย่างแน่นอน” รูบิโอกล่าวต่อคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภา
“อันที่จริงแล้ว เราประเมินว่าอย่างตรงไปตรงมาแล้ว หน่วยงานที่ทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น เมื่อพิจารณาจากความท้าทายที่เผชิญอยู่ อาจจะต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือไม่กี่เดือน จึงจะล่มสลายและเกิดสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบครั้งใหญ่ ซึ่งก็คือประเทศจะแตกแยกกัน” เขากล่าว
เขากล่าวเสริมอีกว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตในตุรกี จะประสานงานกับพันธมิตรในพื้นที่เพื่อประเมินความต้องการของซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย
“เมื่อซีเรียไม่มั่นคง ภูมิภาคนั้นก็จะไม่มั่นคงเช่นกัน” รูบิโอกล่าว
เขากล่าวว่าการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านสามารถสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการสร้างกลไกการปกครองได้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศความตั้งใจที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในระหว่างการประชุมการลงทุนซาอุดีอาระเบีย-สหรัฐฯ 2025 ที่ริยาด
ในการตอบคำถามเกี่ยวกับการต่อสู้ของรัฐบาลซีเรียกับการก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มดาอิช (ไอเอส) รูบิโอกล่าวว่ากลุ่มก่อการร้าย “เกลียด” รัฐบาลชุดใหม่เพราะเป็น “ความเสี่ยงร้ายแรงต่อพวกเขา” เขาตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความเต็มใจ แต่อยู่ที่ความสามารถ โดยอ้างถึงศักยภาพที่จำกัดของรัฐบาลชุดใหม่ที่เป็นอุปสรรคในการต่อสู้กับไอเอส
รูบิโอเตือนว่า ในแต่ละวัน หากทางการไม่สามารถควบคุมหรือจัดหาบริการพื้นฐานให้กับรัฐบาลได้ “เป็นวันที่ไอเอสสามารถฟื้นฟูตัวเองได้” เขากล่าวเสริมว่า สหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในซีเรียต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าไอเอสจะไม่ “แพร่กระจายและขยายตัว”
รูบิโอกล่าวว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ซีเรียมีเอกลักษณ์ประจำชาติที่เป็นหนึ่งเดียว โดยตั้งข้อสังเกตว่าซีเรียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในตะวันออกกลางที่ชาวอลาวี ดรูซ คริสเตียน ซุนนี ชีอะ และเคิร์ด อาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้เอกลักษณ์ร่วมของซีเรียมาโดยตลอด
“ถ้าเราจัดการกับพวกเขา มันอาจจะได้ผลก็ได้ อาจจะไม่ได้ผลก็ได้ ถ้าเราไม่จัดการกับพวกเขา มันก็รับประกันได้เลยว่าจะไม่ได้ผล” รูบิโอเน้นย้ำ
คำกล่าวดังกล่าวเป็นผลจากความพยายามล่าสุด รวมทั้งการพบปะระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีอาหมัด อัลชาราแห่งซีเรียในซาอุดีอาระเบีย และการพบปะระหว่างรูบิโอกับอาซาด อัลไชบานี รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียในตุรกี
อัลชาราได้ลงนามประกาศรัฐธรรมนูญในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปีของประเทศ
บาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำเผด็จการซีเรียที่ครองอำนาจมานานเกือบ 25 ปี หลบหนีไปยังรัสเซียเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ส่งผลให้ระบอบการปกครองของพรรคบาธที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 1963 สิ้นสุดลง
อัลชาราซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังต่อต้านรัฐบาลขับไล่ประธานาธิบดีอัสซาด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานาธิบดีในช่วงเปลี่ยนผ่านเมื่อปลายเดือนมกราคม