ดร.อาหมัด อัล-ฟาร์รา ผู้อำนวยการแผนกกุมารเวชศาสตร์และสูตินรีเวชศาสตร์ของโรงพยาบาล Nasser Medical Complex ในเมืองคาน ยูนิส เตือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทารกหลายร้อยคนกำลังเผชิญกับความตายในไม่ช้านี้ เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีนมผงสำหรับทารกจำหน่ายอีกแล้ว เนื่องมาจากการปิดกั้นของอิสราเอล
ดร. อัล-ฟาร์รา กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เด็กๆ เหล่านี้ไม่มีเวลา” โดยอธิบายว่าอิสราเอลได้ห้ามไม่ให้นมผงสำหรับเด็กเข้าสู่กาซามานานกว่า 4 เดือนแล้ว ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลและตลาดต่างๆ ด้วย เขาเสริมว่าองค์กรระหว่างประเทศก็รวมอยู่ในข้อห้ามนี้ด้วย
ดร.อาหมัด อัลฟาร์รา อธิบายว่า ขณะนี้แผนกเด็กอ่อนที่ Nasser Medical Complex มีเด็กๆ ประมาณ 25 คนที่ประสบปัญหาขาดแคลนนมผงอย่างรุนแรง และขณะเดียวกัน ทารกคลอดก่อนกำหนดก็ขาดนมพิเศษที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
“เราได้มาถึงจุดเริ่มต้นแล้ว และเราได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกดดันการยึดครอง [ของอิสราเอล] เพื่อให้นมผงสำหรับทารกเข้ามาได้” เขากล่าว และออกมาเรียกร้องอย่างเร่งด่วน โดยเตือนว่าทารกและเด็กเล็กที่คลอดก่อนกำหนดอาจเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง หากวิกฤตนี้ไม่ได้รับการแก้ไข
เมื่อเย็นวันพุธ โรงพยาบาล Nasser ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเตือนว่ากำลังจะเกิดภัยพิบัติทางมนุษยธรรมที่ใกล้จะเกิดขึ้น โดยทารกคลอดก่อนกำหนดและเด็กเล็กในตู้อบนับร้อยคนอาจเสียชีวิตเนื่องจากการหยุดให้นมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น
“เด็กเหล่านี้ไม่มีเวลา… และไม่มีเสียง กระทรวงสาธารณสุขขอเรียกร้องต่อโลกให้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ก่อนที่มันจะสายเกินไป” โรงพยาบาลกล่าว
ส่วนกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เคยออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่าวิกฤตการณ์ทุพโภชนาการในฉนวนกาซากำลังเลวร้ายลง โดยระบุว่าอาหารเสริมสำหรับทารกในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของฉนวนกาซาได้หมดลงอย่างสิ้นเชิง โดยนมผงสำเร็จรูปสำหรับทารกเหลืออยู่เพียงพอสำหรับเด็ก 400 คนสำหรับ 1 เดือนเท่านั้น
องค์กรดังกล่าวยืนยันว่าทารกประมาณ 10,000 รายที่อายุน้อยกว่า 6 เดือนต้องการอาหารเสริมอย่างยิ่ง และเตือนว่าครอบครัวอาจถูกบังคับให้ใช้อาหารเสริมทางเลือกที่ไม่ปลอดภัยผสมกับน้ำที่ปนเปื้อน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อชีวิตของเด็ก