จุฬาราชมนตรีเป็นประธานพิธีมอบโฉนดที่ดิน 3 ฉบับแก่มัสยิดจังหวัดอ่างทอง สะท้อนความร่วมมือรัฐ-ศาสนา พัฒนาชุมชนมุสลิมอย่างยั่งยืน
เพจ สำนักจุฬาราชมนตรี รายงานว่าวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ มัสยิดนูรุ้รเราะฮ์ฮีม หมู่ที่ 2 ตำบลชะไว อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบโฉนดที่ดินแก่มัสยิดในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 แห่ง โดยมี พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ, นายประสาน ศรีเจริญ ประธานที่ปรึกษาคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี, นายณรงค์เดช สุขจันทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามฯ, นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ, ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้นำชุมชนเข้าร่วมพิธี
โฉนดที่ดินซึ่งได้รับการมอบในครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. โฉนดที่ดินของมัสยิดนูรุ้รเราะห์ฮีม เลขที่ 17032 หมู่ที่ 2 ตำบลชะไว อำเภอไชโย พื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน 39.7 ตารางวา — รับมอบโดย นายจิรัฐ หวังสะและฮ์
2.โฉนดที่ดินของกุโบร์มัสยิดนูรุ้รเราะห์ฮีม เลขที่ 17037 หมู่ที่ 1 ตำบลชะไว อำเภอไชโย พื้นที่ 7 ไร่ 3 งาน 13.6 ตารางวา — รับมอบโดย นายกฤษดา นาคประวิต
3.โฉนดที่ดินของมัสยิดอัลยุสรอสามัคคี เลขที่ 17037 หมู่ที่ 1 ตำบลชะไว อำเภอไชโย พื้นที่ 78 ตารางวา — รับมอบโดย นายบุญเสริม (ไม่ระบุนามสกุล)
ในโอกาสนี้ จุฬาราชมนตรียังได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้มีอุปการคุณและผู้สนับสนุนกิจกรรมของมัสยิด เพื่อแสดงความขอบคุณและยกย่องบทบาทที่มีส่วนในการส่งเสริมกิจการศาสนาอิสลาม และการพัฒนาชุมชนมุสลิมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมบทบาทของจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการจัดการทรัพย์สินทางศาสนาให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ในระยะยาว ทั้งในด้านการประกอบศาสนกิจ การศึกษา และการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน
พิธีมอบโฉนดที่ดินแก่มัสยิดในครั้งนี้ จึงถือเป็นวาระสำคัญที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการส่งเสริมบทบาทของมัสยิด ในฐานะศูนย์กลางแห่งศรัทธา การศึกษา และการพัฒนาชุมชน ตอกย้ำถึงบทบาทของศาสนาอิสลามในการหล่อหลอมจิตใจ สร้างความสามัคคี และพัฒนาอย่างยั่งยืนในสังคมพหุวัฒนธรรม








