ศาลสูงสุดอินเดียห้ามจดทะเบียน “รถเครื่องดีเซล” ในนิวเดลีเพื่อลดมลพิษ

ศาลสูงสุดอินเดียสั่งระงับจดทะเบียนรถอเนกประสงค์ (เอสยูวี) และยานยนต์หรูทุกยี่ห้อที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลภายในกรุงนิวเดลีเป็นการชั่วคราววันพุธ (16 ธันวาคม) เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้แก่เมืองหลวงซึ่งได้ชื่อว่ามีค่ามลพิษสูงที่สุดในโลก

ที.เอส.ฐากูร ประธานผู้พิพากษาศาลสูงสุด สั่งห้ามนำรถใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2,000 ซีซีขึ้นไป รวมถึงรถเอสยูวี จี๊ป และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดใหญ่ของค่ายบีเอ็มดับเบิลยู โตโยต้า และอื่นๆ เข้ามาจดทะเบียนในกรุงนิวเดลี ส่วนรถบรรทุกเครื่องดีเซลที่อายุการใช้งานนานกว่า 10 ปีก็จะไม่สามารถแล่นเข้าเขตเมืองหลวงได้

ศาลอินเดียพยายามผลักดันให้รัฐเร่งแก้ไขวิกฤตมลพิษในเมืองหลวงของประเทศ หลังจากปีที่แล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้กรุงนิวเดลีติดอันดับเมืองที่สภาพอากาศเป็นพิษสูงที่สุด ในบรรดากว่า 1,600 เมืองใหญ่ที่ทำการสำรวจ

สื่ออินเดียรายงานว่า คำสั่งแบนรถยนต์ดีเซลในกรุงนิวเดลีจะมีผลบังคับจนถึงวันที่ 31 มี.ค. ปี 2016

สุนิตา นารายัน นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาล ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ศาลยังสั่งให้บรรดาแท็กซี่ในกรุงนิวเดลีเปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติอัดหรือ “ซีเอ็นจี” ก่อนสิ้นเดือน มี.ค. ปีหน้า และห้ามประชาชนเผาขยะ

“ไม่มีอะไรจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์มากไปกว่าการได้มีอากาศบริสุทธิ์หายใจ… และสิ่งที่ศาลประกาศในวันนี้ถือเป็นวิกฤตสาธารณสุขที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นารายัน บอกกับสื่อมวลชน

“เวลานี้รถยนต์ดีเซลที่ขนาดเครื่องยนต์เกิน 2,000 ซีซี จะไม่สามารถขอจดทะเบียนในนิวเดลีได้”

ฝ่ายบริหารกรุงนิวเดลีตั้งแต่อดีตมักจะถูกวิจารณ์ว่าไม่มีมาตรการที่ดีพอในการแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กรุงนิวเดลีประกาศจะให้รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีหมายเลขทะเบียนคู่และคี่ใช้ถนนสลับวันกัน โดยจะเริ่มทดลองใช้ตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีหน้า

ค่ามลพิษตามเมืองใหญ่ๆ ของอินเดียมักรุนแรงเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากชาวบ้านที่ฐานะยากจนจะต้องก่อไฟเพื่อความอบอุ่น ขณะที่สภาพอากาศหนาวเย็นยังเป็นตัวกักเก็บฝุ่นละอองไม่ให้ลอยขึ้นไปสู่บรรยากาศชั้นสูง

แม้จะเผชิญปัญหาหมอกควันคล้ายกับกรุงปักกิ่งของจีน แต่นิวเดลีกลับไม่ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ

ยานพาหนะกว่าร้อยละ 23 บนท้องถนนในนิวเดลีใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะทำให้เกิดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ที่เป็นสารก่อมะเร็งมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน

ความคิดเห็น

comments