วัยทำงานเสพติด “สื่อออนไลน์” มากขึ้น WHO จ่อประกาศโรคจิตเวช

วัยทำงานป่วยสุขภาพจิตมากขึ้น พบแนวโน้มเสพติดการพนันออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ชี้ สัญญาณเตือนใช้สื่อออนไลน์นานเกิน 3 ชั่วโมง โดยไม่พัก ระบุติดจนไม่ทำหน้าที่ตนเองเข้าขั้นเป็นโรค WHO จ่อประกาศเป็นโรคทางจิตเวชภายใน 1 – 2 ปี

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าประชากรในวัยทำงานมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาภัยแล้ง ความเครียดจากหนี้สิน และความรัก ซึ่งอาการที่พบอันดับ 1 คือ วิตกกังวล ร้อยละ 4 ซึมเศร้า ร้อยละ 4 รองลงมาคือ ปัญหาติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จัด ทำให้มีปัญหาทะเลาะวิวาทในสถานประกอบการ นอกจากนี้ ยังพบเทรนด์ใหม่มีการเสพติดการพนันออนไลน์ เสพติดโซเชียลมีเดีย หรือโรคเสพติดพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดในการทำงาน แต่หาทางออกไม่ได้เลยใช้เวลาอยู่กับสิ่งเหล่านี้จนเกิดการเสพติด สูญเสียความรับผิดชอบในการทำงาน เสียการรับผิดชอบในครอบครัว เป็นต้น

นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า วิธีสังเกตว่ามีปัญหาเสพติดสื่อหรือไม่ ดูจากการใช้สื่อออนไลน์ติดต่อกันเป็นเวลานาน 3 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ซึ่งถือเป็นอาการเริ่มต้น แต่ถ้าจะดูว่ามีเป็นโรคหรือไม่ ดูจากการสูญเสียการทำหน้าที่ เช่น ไม่รับผิดชอบต่องาน ไม่ไปทำงาน หรือพ่อ แม่ ไม่ทำหน้าที่ในการดูแลบุตร ทั้งนี้ การเสพติดสื่อออนไลน์ถือเป็นปัญหามาก โดยเฉพาะประเทศไทยมักใช้ไปเพื่อความบันเทิง องค์การอนามัยโลกเตรียมที่จะบรรจุเรื่องของการเสพติดสื่อออนไลน์ให้เป็น 1 ในคำวินิจฉัยทางจิตเวช คาดว่าจะประกาศอยู่ในระบบการวินิจฉัยใหม่ที่เป็นเกณฑ์ให้แต่ละประเทศใช้ได้ภายใน 1 – 2 ปี ซึ่งหลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศใช้แล้ว กรมสุขภาพจิตก็จะมีการสำรวจปัญหาสุขภาพจิตแรงงานไทยอีกครั้ง เพื่อระบุความรุนแรงโรคการเสพติดพฤติกรรม ว่าอยู่ในระดับใด

“สุขภาพจิตในสถานประกอบการเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้กรมสุขภาพจิตร่วมกับสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกันจัดทำโครงการความสุข 8 ประการ สร้างสุขด้วยสติ เน้นการสื่อสารภายในที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ที่เริ่มมีปัญหาต้องรู้จัดการแผนชีวิต เช่น ออกกำลังกาย ฝึกการผ่อนคลาย ฝึกสมาธิ ถ้าเป็นมากก็ต้องได้รับการปรึกษานักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ ซึ่งปัจจุบันในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป จะมีคลินิกสุขภาพจิตมีบุคลากรเหล่านี้ทุกแห่ง ส่วนโรงพยาบาลชุมชนก็มีเกือบจะครบทุกแห่งแล้ว” นพ.ยงยุทธ กล่าว

ความคิดเห็น

comments