ออสเตรเลียกล่าวหา UNHCR เป็นใจให้ผู้อพยพเผาตัวประท้วงหลังถูกขังลืม 10 ปี

แคนเบอร์ราออกแถลงการณ์เดือดโจมตีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR เป็นเหตุทำให้ผู้ลี้ภัยทำการประท้วงด้วยการจุดไฟเผาตัวเองกลางค่ายกักกันบนเกาะนาอูรู(Nauru) กลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ หลังเมื่อวันจันทร์(2 พฤษภาคม)หญิงชาวโซมาเลียวัย 21 ปี ประท้วงด้วยการจุดไฟเผาตัว เกิดขึ้นเป็นรายที่ 2 หลังจากผู้ประท้วงชาวอิหร่านรายแรกเสียชีวิตเนื่องจาก UNHCR บอกว่าเขาต้องใช้ชีวิตต่อบนเกาะแห่งนี้นานอีก 10 ปี

เมื่อวันจันทร์(2 พฤษภาคม)รัฐมนตรีการอพยพออสเตรเลีย ปีเตอร์ ดัตตัน(Peter Dutton) ได้รับรู้ถึงเหตุการประท้วงเผาตัวเองของผู้อพยพบนเกาะนาอูรู(Nauru) กลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เพิ่มขึ้น แต่กระนั้นดัตตันยังกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือผู้อพยพเหล่านี้รู้เห็นเป็นใจ ด้วยการหลอกให้ความหวังกับผู้ลี้ภัยว่า จะสามารถเข้ามาตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียได้อย่างถูกกฎหมายสำเร็จในวันข้างหน้า

ในการแถลงครั้งนี้ดัตตันชี้ว่า มีกลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือบางกลุ่ม สนับสนุนให้บรรดาผู้อพยพกระทำการบางอย่าง “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะนาอูรูไม่ใช่การประท้วงต่อสภาพความเป็นอยู่ และไม่ใช่เป็นการประท้วงต่อการให้รักษาพยาบาล หรือการขาดการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านการเงิน”

แต่ทว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ได้ออกแถลงการณ์กล่าวโต้ว่า สภาพร่างกายและจิตใจของผู้ลี้ภัยภายในค่ายกักกันของออสเตรเลียนั้นบอบช้ำอย่างหนัก เนื่องมาจากสภาพภายในของค่ายแห่งนี้ รวมไปถึงกระบวนการขึ้นทะเบียนผู้อพยพของออสเตรเลียที่มีความเข้มงวดอย่างมาก

“คนเหล่านี้ล้วนได้ผ่านเรื่องที่เลวร้าย มีจำนวนมากต้องหนีภัยสงครามและการกดขี่ รวมไปถึงบางส่วนที่ประสบกับสิ่งที่สะเทือนขวัญอย่างหนัก” รายงานจากแถลงการณ์ของ UNHCR ประจำออสเตรเลีย

และในแถลงการณ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ในรายงานการสัมโนของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้ชี้ออกมาว่า สภาพภายในศูนย์ และการดำเนินการคัดกรองผู้ลี้ภัยกลางทะเลนั้นเป็นสาเหตุทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของผู้ลี้ภัยเสื่อมโทรมอย่างหนัก”

ทั้งนี้ในวันอังคาร(3)ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียระบุว่า ผู้ลี้ภัยหญิงชาวโซมาเลียไม่ทราบชื่อวัย 21 ปีทำการประท้วงด้วยการจุดไฟเผาตัวเองภายในค่ายกักกัน ซึ่งในขณะนี้เธอมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤต

โดยรอยเตอร์ชี้ว่า ผู้อพยพหญิงนี้เป็นรายที่ 2 ในรอบสัปดาห์ที่ใช้วิธีนี้ในการประท้วงแคนเบอร์ราในการปฎิบัติต่อผู้อพยพ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า ออสเตรเลียมีนโยบายแข็งกร้าวต่อผู้ลี้ภัยที่ล่องเรือพยายามขึ้นฝั่งเพื่อขอลี้ภัย

และก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(29 เมษายน) ผู้ประท้วงรายแรกที่ใช้ไฟเผาตัวเองได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบริสเบน โดยสื่อออสเตรเลีย ABC NEWS รายงานในวันจันทร์(2)ว่า โอมิด มาซูมาลี (Omid Masoumali)ผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านจุดไฟเผาตัวเอง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ UNHCR ได้บอกว่า เขายังคงต้องทนอยู่ภายในศูนย์ผู้อพยพบนเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ต่อไปอีก 10 ปี ทำให้ความฝันของมาซูมาลีที่จะถูกส่งตัวต่อไปยังประเทศที่ 3 ต้องดับลง

ABC NEWS รายงานว่า มาซูมาลีได้จุดไฟเผาตัวเอง 2 วันก่อนที่จะเสียชีวิต

และดูเหมือนว่า จะไม่ใช่เป็นเพียงแค่มาซูมาลีและหญิงนิรนามชาวโซมาเลียที่ต้องการประท้วงออสเตรเลียด้วยการจุดไฟเผาตัวเอง เพราะจากการเปิดเผยของ เอลิ ชากิบา (Eli Shakiba) ผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านในค่ายกักกันแห่งนี้ได้ให้ข้อมูลว่า มีผู้อพยพอย่างน้อย 3 คน หญิงโซมาเลีย เด็กชายชาวอิหร่าน และชายชาวศรีลังกา ที่มีแนวคิดต้องการจุดไฟเผาตัวเองหลังจากคนทั้งหมดได้พบกับ UNHCR ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ซึ่งชากิบาได้เปิดเผยว่า เธอได้ทราบจากเพื่อนของเธอว่า เจ้าหน้าที่UNHCRได้เปิดเผยกับมาซูมาลีว่า เขาต้องอาศัยอยู่บนเกาแห่งนี้ต่ออีก 10 ปี และถามถึงสิ่งที่ชายผู้ต้องการเพื่อที่จะอาศัยอยูบนเกาะนาอูรูต่อ “คุณต้องการอะไรเพื่อที่จะทำให้คุณสามารถอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ได้ต่อไป” ชากิบากล่าวถึงข้อความที่เพื่อนของเธอได้ยินมาจาการพบปะของชายชาวอิหร่านและเจ้าหน้าที่ UNHCR

ความคิดเห็น

comments