มข.เปิดห้องละหมาดพร้อมบริการ 24 ชั่วโมง

เมื่อวันอัคารที่ 3 พฤษภาคม 2559 12.00 น. สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีเปิดห้องละหมาดและพิธีละหมาดดุฮ์ริร่วมกันเป็นครั้งแรก ณ ห้องละหมาด ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีนักศึกษาชมรมมุสลิม มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผู้จัดพิธีการ และได้รับเกียรติจากอิหม่าม และตัวแทนจากมัสยิดในจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นชาวมุสลิมไทย และชาวต่างประเทศ

การเปิดงานครั้งนี้ มีการอัญเชิญคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลโดย นักศึกษาชมรมมุสลิม พร้อมให้ความหมาย
อ.พญ.เสาวนันท์ บำเรอราช รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการวิชาการ กล่าวรายงานต่อประธานถึงความเป็นมาในการจัดให้มีห้องละหมาดในสำนักหอสมุดว่า “จากเป้าหมายการให้บริการแบบ KKU Library for all นั้น นอกจากการให้บริการต่อผู้ใช้ห้องสมุดแล้ว ยังให้ความสำคัญให้กับผู้ใช้บริการที่นับถือศาสนามุสลิมด้วย การมีห้องละหมาดในครั้งนี้ เกิดจากผู้ใช้บริการห้องสมุดชาวมุสลิมได้ขอปรึกษาหารือในเรื่องของสถานที่ในการปฏิบัติศาสนกิจที่มีไม่มากพอในมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้จัดพื้นที่สำหรับให้บริการ “ห้องละหมาด” ขึ้น ณ พื้นที่บริการโซน 24/7 ห้อง 1201 อาคาร 1 ชั้น 2 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักศึกษา บุคลากร บุคคลภายนอกที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วไป ให้มีสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจประจำวัน อีกทั้ง เป็นการธำรงไว้ซึ่งแนวปฏิบัติศาสนกิจที่ดีต่อไป ซึ่งมีคณะทำงานประกอบด้วยบุคลากรห้องสมุดและนักศึกษาชมรมมุสลิม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินการร่วมกัน กระทั่งได้มีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณโซน 24 ชั่วโมงสำหรับจัดเตรียมห้องละหมาดที่ถูกต้องตามหลักศาสนา ใช้เวลาในการดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2559 และได้แล้วเสร็จพร้อมให้บริการในต้นเดือนพฤษภาคม 2559”
ผศ. จรูญศักดิ์ พันธวิศิษฎ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกีฬา ประธานในพิธีเปิด กล่าวว่า “ขอขอบคุณสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับนักศึกษาและบุคลากรชาวมุสลิมในมหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นในปัจจุบัน การจัดให้มีบริการห้องละหมาดขึ้นในสำนักหอสมุด ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ อยู่ในศูนย์กลางการให้บริการของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งเปิดพื้นที่ให้เข้าใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงนับว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ห้องละหมาดเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ส่งเสริมอำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่ในห้องสมุดให้กับชาวมุสลิม แต่ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้นับถือศาสนาทุกศาสนาได้มีโอกาสใช้พื้นที่ โดยทางห้องสมุดยังหวังให้มีการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเท่าเทียมของทุกชาติทุกศาสนา”

หลังพิธีเปิดห้องละหมาดเสร็จสิ้น อิหม่ามและผู้นำทางศาสนาอิสลาม ได้ร่วมกันทำละหมาดพร้อมกันเป็นปฐมฤกษ์ โดยมีนักศึกษาชมรมมุสลิม มหาวิทยาลัยขอนแก่น อาจารย์ชาวมุสลิม และนักศึกษาชาวต่างชาติร่วมทำพิธีละหมาดดุฮ์ริ ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง นับเป็นภาพพิธีกรรมที่งดงาม

พ.ต.อ.สมหวัง เนตรพิทยานนท์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างตื้นตันว่า “ขอความสันติ ความรัก ความเมตตา จากองค์อัลลอฮ์ จงประสบแด่ผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมได้รับข่าวจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า ได้จัดสถานที่สำหรับละหมาด นั่นคือสถานที่สำหรับกราบไหว้พระเจ้า หากเปรียบเทียบกับศาสนาพุทธก็เสมือนว่ามีคนสร้างวัดให้ชาวพุทธ ดังนั้น จึงทำให้ผมมีความภาคภูมิใจ และขอบพระคุณมหาวิทยาลัยเป็นอย่างสูง ที่อนุเคราะห์สถานที่ละหมาดให้กับนักศึกษา มันเป็นความสุข ความภูมิใจอย่างสูง ไม่มีสิ่งไรที่เรา….(ท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเครือ)… ปลื้มปิติใจมากครับ”

พ.ต.อ.สมหวัง กล่าวต่อไปว่า “มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดสถานที่ละหมาดให้กับชาวมุสลิมในครั้งนี้ สร้างความปลาบปลื้มใจมากในฐานะที่เป็นมุสลิม และเป็นประธานคณะกรรมการมุสลิมจังหวัดขอนแก่น ผมไม่คิดมาก่อนว่า จะมีผู้ให้ความสนใจความเมตตา แก่นักศึกษาที่เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยขอนแก่นแห่งนี้ ขอขอบคุณท่านผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกีฬาที่เป็นประธานวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักหอสมุด ที่อนุเคราะห์พื้นที่ให้กับนักศึกษา ให้สามารถเข้าละหมาดได้ 24 ชั่วโมง เพราะชาวมุสลิมของเรามาจากหลายภาคในประเทศไทย สิ่งนี้ทำให้เราซาบซึ้งมาก เป็นสิ่งที่คณะกรรมการจังหวัดสุขใจ สบายใจว่า อย่างน้อยนักศึกษาของเราในอนาคตข้างหน้า เขาได้มีโอกาสมีสถานที่ได้ทำในเรื่องศาสนา อัสลามมากุม ขอให้นักศึกษา หรือ ชาวมุสลิมที่ได้เข้ามาในขอนแก่น หากมาสถานที่ใกล้เคียงจังหวัดขอนแก่น ขอให้ได้ตรงมาที่หอสมุดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ชั้น 2 มีสถานที่ละหมาด 24 ชั่วโมง ต้องขอบคุณด้วยหัวใจ ที่อนุเคราะห์และให้เกียรติกับชาวมุสลิมจังหวัดขอนแก่นครับ”

Mr.Daryono Klaten นักศึกษาปริญญาเอก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ชาวอินโดนีเซีย กล่าวว่า “การละหมาดนั้นต้องทำ 5 ครั้งต่อวัน แต่มีข้อจำกัดในช่วงการเรียนที่ไม่สะดวกต่อการทำกิจกรรมนั้นการทำละหมาดนั้นเป็นเรื่องยาก หากมีห้องละหมาดในห้องสมุดได้นั้นจะสะดวกที่สุด เมื่อบอกความประสงค์ต่อบรรณารักษ์ของสำนักหอสมุดก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขอบคุณคุณยุพา ดวงพิมพ์ ที่เป็นธุระจนหาห้องละหมาดให้ได้”

นักศึกษาหญิงชาวอินโดนีเซีย คณะมนุษยศาสตร์ กล่าวว่า“ห้องละหมาดมีความหมายต่อชาวมุสลิมมาก การสร้างห้องละหมาด 24 ชม.ในห้องสมุด ทำให้รู้สึกตื่นเต้น และรู้สึกดีมากๆ ขอขอบคุณห้องสมุดเป็นที่สุดที่ได้ให้ความสำคัญในการจัดห้องละหมาดที่เงียบสงบ และเหมาะสำหรับการทำละหมาดเป็นอย่างยิ่ง”

นายฟิกรี กีไร นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ประธานชมรมมุสลิม กล่าวเสริมว่า “ผมเป็นมุสลิมจากจังหวัดปัตตานี และเป็นประธานชมรมนักศึกษามุสลิม มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้มีโอกาสในการร่วมประสานการเปิดห้องละหมาดขึ้น ตั้งแต่เรียนปี 1 ผมประสบปัญหาความไม่สะดวกในการเดินทางไปละหมาดในชมรม หรือหอพัก หรือที่คอมเพล็กซ์ เมื่อสำนักหอสมุดจะจัดห้องละหมาดให้นั้น ทำให้รู้สึกปลื้มปิติอย่างยิ่งยวด เพราะหอสมุดอยู่ในศูนย์กลางการเดินทางที่สะดวกอย่างยิ่งในการเข้ามาใช้ห้องละหมาด 24 ชั่วโมง ชาวมุสลิมจะมีการละหมาด 5 ครั้ง ใน 1 วัน ทำคนเดียวหรือพร้อมกันหลายคนได้ โดยมีกำหนดช่วงเวลาที่ทะยอยเข้าทำละหมาดกันได้ ในแต่ละครั้งจะประกอบพิธีสวดเป็นภาษาอาหรับในคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งชาวมุสลิมจะต้องสวดได้ทุกคน และใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีในแต่ละครั้ง การละหมาดนั้นมีความสำคัญต่อชาวมุสลิมทุกคน เป็นการเข้าหาพระเจ้าเพื่อขัดเกลาจิตใจจิตใจตนเอง และชำระบาปล้างบาปเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจทำผิดพลาดอะไรก็ได้ในแต่ละวัน พักจากงานที่ทำตลอดวัน เชิญชวนพี่น้องมุสลิมเข้ามาใช้บริการห้องละหมาดได้ในห้องเงียบโซน 24 ชั่วโมงที่สำนักหอสมุดได้ครับ”
อาจารย์อิมรอน โสะสัน ที่ปรึกษาชมรมมุสลิม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้อำนวยการสถาบันสันติศึกษา กล่าวความรู้สึกว่า “การเปิด ‘ห้องละหมาด’ อย่างเป็นทางการ ของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นห้องละหมาดที่จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงนั้น ถือเป็นข้อพิสูจน์ทางรูปธรรมถึงนโยบายการเคารพ ให้เกียรติ ความแตกต่างหลากหลายที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้พยายามมุ่งมั่นให้เกิดขึ้นครับ….อัลฮัมดุลิลละฮ์”

สำนักหอสมุดได้เปิดให้บริการห้องละหมาดก่อนหน้านี้แล้วสองแห่ง ที่ห้องสมุดคณะเภสัชศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งได้เปิดบริการในเวลาราชการ เพื่อขานรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสังคมไทยของอาเซียน และเป็นแบบอย่างของสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจที่แท้จริง สำนักหอสมุดจึงเปิดห้องละหมาดที่สามารถเข้าใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงได้ จาก Mr.Daryono Klaten นักศึกษาปริญญาเอก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ชาวอินโดนีเซีย ที่ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่าควรมีห้องละหมาดในห้องสมุด จนกระทั่งได้รับการสานต่อด้วยนโยบาย Library for All พร้อมนี้ได้รับการบริจาคพรมปูพื้น และคัมภีร์อัลกูรอานส่งตรงจากประเทศอินเดีย โดยมิตรมุสลิม Mr.Jamal Mohamed Ibrahim. Chairman of Rice City Matric Hr. Secondary School, Aduthurai, ประเทศอินเดีย จากการประสานการบริจาคของนางยุพา ดวงพิมพ์ บรรณารักษ์ ชำนาญการพิเศษ สำนักหอสมุด จึงได้เป็นห้องละหมาดที่พร้อมใช้งานได้ 24 ชั่วโมง

ข่าว/ภาพ : วัชรา น้อยชมภู
ขอบคุณ : กิตติยา สุทธิประภา ผู้สื่อข่าวพิเศษ
www.kku.ac.th

ความคิดเห็น

comments