สิงคโปร์ลุยปราบยุง หลังพบผู้ป่วยซิก้า 41 ราย

สิงคโปร์ส่งทีมกำจัดยุงเร่งทำสงครามต่อต้านปราบปราม “ไวรัสซิก้า”ในวันจันทร์ (29 สิงหาคม) หลังจากยืนยันพบผู้ติดเชื้อที่เกิดจากการถ่ายทอดเชื้อภายในท้องถิ่นเองจำนวนรวม 41 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ไต้หวันกำชับประชาชนที่มีแผนเดินทางไปยังแดนลอดช่องให้ระวังถูกยุงกัด โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ ด้านมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามตรวจสอบผู้ที่เดินทางจากสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด

ในวันจันทร์ (29) พวกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสิงคโปร์ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบสถานที่ซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมที่พักอาศัยต่างๆ ในพื้นที่เขตอัลจูนีเอด เครสเซนต์ แอนด์ ซิมส์ ไดรฟ์ (Aljunied Crescent and ims Drive) ย่านชานเมืองสิงคโปร์ซึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิก้าทั้ง 41 ราย

ขณะเดียวกัน พนักงานฉีดพ่นยาในชุดแต่งกายรัดกุมสวมหน้ากากฆ่าเชื้อ ก็เดินทางอย่างเป็นระบบตามกระบวนการ เพื่อไปพ่นยาฆ่ายุงตามโครงการเคหะซึ่งเป็นกลุ่มอาคารสูงๆ ในพื้นที่ต่างๆ ที่แยกห่างจากกันรวม 7 พื้นที่ของเกาะสิงคโปร์ โดยเน้นหนักแหล่งที่มีน้ำขัง เช่น กระถางต้นไม้ และห้องน้ำ ทั้งนี้ เจ้าของที่พักที่ปล่อยให้มีแหล่งน้ำขังจะถูกปรับ 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 129,000 บาท)

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงยืนยันในวันเสาร์ (27) ว่า พบผู้ติดเชื้อซิก้ารายแรกที่เกิดจากการถ่ายทอดเชื้อภายในสิงคโปร์เอง โดยเป็นหญิงชาวมาเลเซียวัย 47 ปีซึ่งพำนักอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ จากนั้นในวันอาทิตย์ (28) กระทรวงและสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก็ออกคำแถลงร่วมระบุว่า พบผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแน่นอนแล้วอีก 40 ราย และแจกแจงด้วยว่า ผู้ตัดเชื้อทั้งหมด 41 รายเหล่านี้เป็นผู้พำนักอาศัยในเขตอัลจูนีเอด หรือเป็นคนงานในสถานที่ก่อสร้างกลุ่มอาคารที่พักอาศัยในเขตนี้ของบริษัทกัวโคแลนด์

กัวโคแลนด์มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ และมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่ทั่วเอเชีย โครงการก่อสร้างในเขตอัลจูนีเอดของกัวโคแลนด์ถูกสั่งระงับการดำเนินการตั้งแต่วันเสาร์ (27) และจะสามารถทำงานได้ใหม่ต่อเมื่อแก้ปัญหาแหล่งเพาะพันธุ์ยุงตลอดจนหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก สืบเนื่องจากในจำนวนผู้ติดเชื้อซิก้าที่ยืนยันแล้ว 41 คน เป็นแรงงานต่างชาติซึ่งทำงานในโครงการนี้ถึง 36 คน

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังกำชับให้ประชาชนที่อยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่ที่เสี่ยงมีการระบาดของซิก้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีมีครรภ์ หมั่นสังเกตสุขภาพตัวเองและรีบไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการป่วย

ถึงแม้ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดที่ได้รับการยืนยันในช่วงสุดสัปดาห์มีอาการฟื้นตัวแล้ว แต่สิงคโปร์ยังตรวจพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มอีก 5 คนเมื่อวันจันทร์ (29) ซึ่งรวมถึงคนงานต่างชาติ และคนเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจเพิ่มเติมโดยศูนย์โรคติดต่อ

แม้ได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มีมาตรฐานสุขอนามัยดีที่สุดและสะอาดที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เกาะเขตร้อนที่มีประชากรหนาแน่นแห่งนี้ก็มีปัญหาเรื้อรังกับโรคไข้เลือดออกจากการแพร่พันธุ์ของยุงลายบ้านสายพันธุ์เดียวกับที่เป็นพาหะซิก้า ซึ่งขณะนี้พบใน 58 ประเทศ โดยเฉพาะบราซิล

ไวรัสนี้ทำให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีไข้อ่อนๆ และเป็นผื่นคันเท่านั้น แต่สำหรับสตรีมีครรภ์ ซิก้าอาจทำให้ทารกในครรภ์มีสมองและศีรษะเล็กผิดปกติแต่กำเนิด (microcephaly)

สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อซิก้ารายแรกในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นผู้ชายที่เดินทางไปเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิลเมื่อต้นปี ทว่า สำหรับการติดเชื้อครั้งล่าสุดทั้งหมดเป็นการติดเชื้อที่เกิดขึ้นภายในประเทศ

องค์การอนามัยโลก (ฮู) แถลงในวันอาทิตย์ (28) ว่า ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ซิก้าที่พบในสิงคโปร์เป็นสายพันธุ์ใด รวมทั้งระดับภูมิคุ้มกันของประชาชนต่อซิก้าสายพันธุ์ที่พบในเอเชีย

อย่างไรก็ดี ประเทศเพื่อนบ้านต่างตื่นตัวประกาศมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสนี้จากสิงคโปร์ โดยที่ไต้หวันได้ออกคำเตือนเมื่อวันจันทร์ (29) สำหรับประชาชนที่มีแผนเดินทางไปยังสิงคโปร์ ให้ระวังถูกยุงกัด ขณะที่สตรีมีครรภ์และว่าที่คุณแม่ที่ใกล้คลอดควรงดเดินทางไปยังบริเวณที่พบผู้ป่วยซิก้า

ขณะเดียวกัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ต่างแถลงว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะติดตามตรวจสอบผู้ที่เดินทางจากสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด

ความคิดเห็น

comments