แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่พบมวลชนสงขลา ลั่นใช้กฎหมายนำทหาร ปราบภัยแทรกซ้อน

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่พบปะกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ จ.สงขลา หลังเข้ารับตำแหน่ง เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เดินหน้าขยายผลการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ “กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย”

เมื่อวันอังคาร (4 ตุลาคม ) ที่บริเวณที่พักสงฆ์วิเวกวนาศรมพรหมรังสี ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่พบปะกลุ่มมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เข้าสักการะพระประธานในศาลาการเปรียญ จากนั้นได้ร่วมปลูกต้นไม้กับหัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชน จากนั้นได้เดินทางไปให้อาหารปลา พร้อมร่วมกิจกรรมพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดกับส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา อาสาสมัครและประชาชน ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงทัศนียภาพของที่พักสงฆ์ให้มีความร่มรื่น เหมาะสมแก่การปฎิบัติธรรมของพระภิกษุและผู้ปฏิบัติธรรม พร้อมให้ส่วนราชการและประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบำเพ็ญประโยชน์ สนับสนุนการทำนุบำรุงพุทธศาสถานให้เกิดความสวยงามและเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน อีกทั้งยังเป็นขยายผลการปฏิบัตงานตามยุทธศาสตร์ “การทหารนำ การทหารตาม การเมืองขยาย กฎหมายนำ” ซึ่งพลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้นำมาใช้ในการปฏิบัติงาน โดยแนวคิด “กฎหมายนำ” คือ การปฏิบัติตามหลักกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อันจะส่งผลต่อการลดการสร้างเงื่อนไขในพื้นที่ “การทหารตาม” คือ การอำนวยการประสานงาน เพื่อติดตามผู้กระทำผิด ทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายมาลงโทษ ทั้งนี้เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน “การเมืองขยาย” คือ การดำเนินงานการเมืองในทุกระดับ เพื่อดึงมวลชนมาเป็นฝ่ายรัฐเพื่อให้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกทางหนึ่งด้วย

หลังจากนี้แม่ทีภาคที่ 4 คนใหม่ยังเปิดเผยอีกว่าตนให้ความสำคัญในเรื่องของภัยแทรกซ้อน ไม่น้อยไปกว่าเรื่องของการก่อความไม่สงบ เพราะภัยแทรกซ้อน ซึ่งเป็นการค้ายาเสพติด การค้าน้ำมันเถื่อน บ่อนการพนัน และสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น เหล้า บุหรี่ หลบหนีภาษี เป็นธุรกิจนของผู้มีอิทธิพล ที่มีการเชี่ยมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยเม็ดเงินส่วนหนึ่งถูกนำไปสนับสนุนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การปราบปรามจับกุมกลุ่ม “ภัยแทรกซ้อน” จะต้องทำอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของขบวนการ

ในยุคที่ตนเป็น “แม่ทัพ” จะทำการปราบปรามยาเสพติดทุกเม็ด น้ำมันทุกหยด และบ่อนการพนันทุกบ่อน ในส่วนของข้าราชการที่มีส่วนกับธุรกิจผิดกฎหมาย จะมีการเตือนก่อนให้เลิกประพฤติปฏิบัติ ถ้ายังไม่เชื่อจะไม่มีการย้ายออกจากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่ง แต่จะปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่ เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่อื่น ส่วนกลุ่มผู้ทำธุรกิจเถื่อนทั้งหมดนั้น จะทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดทรัพย์หรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะทำการสืบสวนสอบสวนว่าเข้าประเด็นในการยึดทรัพย์หรือไม่ สำหรับขบวนการ “ภัยแทรกซ้อน” มีบ้างที่เป็นขบวนการข้ามชาติ และมีบ้างที่เป็นขบวนการภายในพื้นที่

สำหรับการจะขุดรากถอนโคนกลุ่มภัยแทรกซ้อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำมาก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน ก่อนที่จะมารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ขณะนี้มีรายชื่อเกือบทั้งหมด ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหนที่เป็นขบวนการ ซึ่งหากตำรวจ ศุลกากร และหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการปราบปรามโดยเฉพาะยาเสพติด ไม่สามารถทำการปราบปรามจับกุมได้ ก็จะใช้กำลังของทหารในการปฏิบัติการ

ความคิดเห็น

comments