“หนุนอัสซาด” รัสเซีย-อิหร่านแตะมือสู้จนกว่าชนะ

ทั้งรัสเซีย และอิหร่าน ประกาศว่าพวกเขาจะยังคงความร่วมมือทางทหารต่อการสนับสนุนระบอบการปกครองชีอะห์ภายใต้การนำของบาชาร์ อัล-อัสซาดต่อไป จนกว่าฝ่ายต่อต้านจะพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ผู้นำกองทัพรัสเซียและอิหร่านได้สาบานว่าจะสู้กับ “ผู้ก่อการร้าย” และคงการสนับสนุนของพวกเขาต่อไปในซีเรียหลังจากฐานทัพอากาศซีเรียถูกสหรัฐฯยิงขีปนาวุธโจมตีอันเป็นผลมาจากระบอบการปกครองอัสซาดใช้แก๊สพิษซารินสังหารพลเรือนในจังหวัดอิดลิป

การพูดทางโทรศัพท์ในวันเสาร์ระหว่างนายพล Mohammad Bagheri แห่งอิหร่าน และนายพล Valery Gerasimov แห่งรัสเซียได้กล่าวประณามสหรัฐอเมริกันในการโจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียซึ่งเป็นความก้าวร้าวต่อประเทศเอกราช

“จุดมุ่งหมายเพื่อชะลอชัยชนะของกองทัพซีเรียและพันธมิตรและเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผู้ก่อการร้าย” แกนนำทางทหารของทั้งสองประเทศกล่าวในแถลงการณ์

ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr ระบุว่าพวกเขาสาบานว่าจะให้ความร่วมมือทางการทหารกับระบอบการปกครองบาชาร์ อัล – อัสซาด ต่อไปจนกว่าผู้ก่อการร้าย และผู้สนับสนุนพวกเขาจะพ่ายแพ้

อิหร่านและรัสเซียเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอัสซาดและเรียกทุกคนที่ต่อต้านระบอบการปกครองซีเรียว่า “ผู้ก่อการร้าย”

อิหร่าน และรัสเซียได้ร่วมกันปกป้องอัสซาด ออกหน้ารับในการตอบโต้ข้อกล่าวหาต่างๆ โดยเฉพาะล่าสุดในการใช้แก๊สพิษซานรินโจมตีพลเรือนในเมือง Khan Sheikhoun จังหวัด Idlib ทำให้พลเรือนอย่างน้อย 86 คน เสียชีวิต ส่วนมากเป็นเด็กและสตรี

โดยรัสเซียกล่าวอ้างว่าสารเคมีรั่วไหลเนื่องจากเครื่องบินรบซีเรียทิ้งระเบิดถล่มคลังอาวุธของฝ่ายต่อต้านซีเรีย แต่ฝ่ายต่อต้านซีเรียปฎิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซีย และระบอบการปกครองซีเรียก็ปฎิเสธว่าไม่ได้ปฎิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ในวันประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน รูฮานิ ได้วิจารณ์ Donald Trump ในการใช้ขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายในซีเรียเพื่อเป็นการตอบโต้ที่ระบอบการปกครองซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน

“ชายคนนี้ที่กำลังทำงานอยู่ในอเมริกาอ้างว่าเขาต้องการที่จะต่อสู้กับการก่อการร้าย แต่วันนี้ผู้ก่อการร้ายทั้งหมดในซีเรียกำลังฉลองการโจมตีสหรัฐ” รูฮานิกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Sergei Lavrov ยังได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนาย Rex Tillerson รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเดินทางเยือนมอสโกในไม่กี่วันข้างหน้า

Lavrov กล่าวว่า “การโจมตีประเทศที่รัฐบาลของเขาต่อสู้กับการก่อการร้าย จะส่งผลประโยชน์ต่อพวกสุดขั้วและก่อให้เกิดภัยคุกคามเพิ่มเติมต่อความมั่นคงระดับภูมิภาคและระดับโลก” ตามแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย

ในขณะเดียวกัน ยังมีรายงานเมื่อวันเสาร์(8 เมษายน)ที่ผ่านมาว่าการโจมตีทางอากาศได้ฆ่าพลเรือนทั้งหมด 18 คนซึ่งรวมถึงเด็ก 4 คนในจังหวัดอิดลิปตามรายงานของเครือข่ายสิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR)

รายงานระบุอีกว่ากล่าวว่าการโจมตีเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Urum al-Joz โดยเครื่องบินรบที่เชื่อว่าเป็นของรัสเซีย

ความคิดเห็น

comments