เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ระบุว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย, สหรัฐฯ และซีเรีย ได้ทำให้เด็กจำนวนมากเสียชีวิตในจังหวัดอิดลิป ทางตอนเหนือของซีเรีย
พลเรือนจำนวนมากถูกฆ่าในการโจมตีทางอากาศในทางตอนเหนือของซีเรีย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจากการโจมตีของรัสเซีย, สหรัฐอเมริกา และซีเรีย ตามรายงานของเจ้าหน้ากู้ภัย และเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชน
อย่างน้อย 10 คนซึ่งรวมถึงเด็ก 9 คนถูกสังหารเมื่อวันอังคาร(18 เมษายน)ในการโจมตีทางอากาศที่ต้องสงสัยว่าเป็นการดำเนินการของรัสเซียเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Maaret Harmeh ในจังหวัดอิดลิป ตามการเปิดเผยของฮามิดหนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่ออัลญะซีเราะห์
“หญิงชราและเด็ก 9 คนถูกสังหารในการโจมตีของรัสเซียที่เมือง Maaret Harmeh ในจังหวัด Idlib ในเช้าวันนี้” ฮามิดกล่าวเพิ่มว่ามีอีก 10 คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าว
ฮามิดกล่าวว่าการโจมตีทางอากาศได้กำหนดเป้าหมายอาคารซึ่งถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน
“หลังจากโจมตีอากาศครั้งแรกเกิดขึ้น ในขณะที่ทีมกู้ภัยกำลังค้นหาผู้รอดชีวิต การโจมตีทางอากาศอีกครั้งได้เกิดขึ้นในพื้นที่เดิม ส่งผลให้เครื่องมือกู้ภัยได้รับความเสียหาย รวมทั้งรถพยาบาลก็ได้รับความเสียหายด้วย พร้อมกับบางส่วนของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บ” เขากล่าว
“เด็กสามคนได้รับการช่วยเหลือจากใต้ซากปรักหักพังของบ้านของเขา” เขากล่าว
Maaret Harmeh ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 22 กิโลเมตรจากเมือง Khan Sheikhoun ซึ่งถูกโจมตีทางเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 87 คนเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา
กลุ่มสังเกตุการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียรายงานว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกจำนวนมากจากการโจมตีในหลายเป้าหมายของจังหวัดอิดลิปเมื่อเย็นวันจันทร์(17)
กลุ่มสังเกตุการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเด็ก 9 คนที่ถูกสังหารจากการทิ้งระเบิดโจมตีบ้านพักของเขาในเมือง Maaret Hermah เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวเดียวกันที่มีอายุระหว่าง 2 – 13 ปี
