หัวรุนแรงยอมแพ้แล้ว ผลเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสสายกลางชนะ

เอ็มมานูแอล มาครง ผู้สมัครที่มีแนวทางสายกลางและโปรยุโรป เป็นฝ่ายชนะอย่างไม่ยากเย็นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสองซึ่งเป็นรอบตัดสินของฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ (7 พฤษภาคม) โดยที่ผลการคาดการณ์เบื้องต้นภายหลังปิดการลงคะแนนระบุว่าเขาได้เสียงโหวตทิ้งห่าง มารีน เลอ แปน คู่แข่งขันที่เป็นพวกชาตินิยมขวาจัดและชูนโยบายต่อต้านอิสลาม ล่าสุด เลอ แปน แถลงยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว

ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นจุดสูงสุดในการการก้าวผงาดขึ้นมาอย่างพิเศษโดดเด่นของอดีตนายธนาคารวัย 39 ปีผู้นี้ ซึ่งจะกลายเป็นผู้นำที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาของฝรั่งเศส

เขาให้คำมั่นที่จะเยียวยาประเทศชาติซึ่งอยู่ในสภาพร้าวฉานและขวัญหนีดีฝ่อ ภายหลังการรณรงค์หาเสียงอันดุเดือดเผ็ดร้อนที่เผยให้เห็นการแบ่งแยกแตกขั้วกันอย่างล้ำลึกในทางเศรษฐกิจและทางสังคม ตลอดจนความตึงเครียดที่มีอยู่ในเรื่องอัตลักษณ์ของชาติและการจัดการกับปัญหาผู้อพยพ

จากการประมาณการขั้นต้นของสำนักต่างๆ แสดงให้เห็นว่า มาครงกำลังเป็นผู้มีชัยโดยได้คะแนนเสียงระหว่าง 65.5 – 66.1% ของผู้ออกมาใช้สิทธิ นำห่างเลอ แปน ที่จะได้อยู่เสียงโหวตราวๆ ระหว่าง 33.9 ถึง 34.5% เท่านั้น

มาครง บุคคลซึ่งไม่มีใครรู้จักเพียงเมื่อ 3 ปีก่อน เวลานี้กำลังจะกลายเป็นผู้นำทรงอำนาจที่สุดคนหนึ่งของยุโรป โดยที่เขาก็ตระเตรียมผลักดันนำเสนอวาระการปฏิรูปทางการเมืองและทางเศรษฐกิจอย่างมโหฬารยิ่ง ทั้งสำหรับฝรั่งเศสและสำหรับสหภาพยุโรป

ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้ จะส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่อียู และในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป ทั้งนี้พวกผู้นำในเมืองหลวงทั้งสองจะต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในเมื่อโปรแกรมต่อต้านอียูและต่อต้านโลกาภิวัตน์ของเลอ แปน เป็นอันพ่ายแพ้ปราชัยลงแล้ว

ภายหลังจากสหราชอาณาจักรออกเสียงลงประชามติเมื่อปีที่แล้วที่จะถอนตัวจากอียู แล้วยังตามมาด้วยชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในสหรัฐฯ การเลือกตั้งในฝรั่งเศสคราวนี้จึงถูกจับจ้องมองกันอย่างกว้างขวาง ในฐานะเป็นการทดสอบว่ากระแสชาตินิยมฝ่ายขวายังจะเขยิบขึ้นสูงต่อไปหรือไม่

เลอ แปน ซึ่งอยู่ในวัย 48 ปี เสนอภาพการลงคะแนนโหวตครั้งนี้ว่า เป็นการแข่งขันกันระหว่าง มาครงและพวก “นักโลกาภิวัตน์” ซึ่งนิยมการค้าเสรี, การรับผู้อพยพ, และการยินยอมแบ่งอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติให้คนอื่น กับวิสัยทัศน์แบบ “ผู้รักชาติ” ของเธอซึ่งเรียกร้องให้จัดการดูแลป้องกันพรมแดนอย่างเข้มงวดแข็งขัน และเชิดชูอัตลักษณ์แห่งชาติด้านต่างๆ ให้โดดเด่น

ไม่นานนักหลังจากมีการเผยแพร่การคาดการณ์ผลเลือกตั้งของหลายสำนักแรกๆ เลอ แปน ได้ออกมากล่าวปราศรัยกับพวกผู้สนับสนุนของเธอในชานกรุงปารีสว่า เธอได้แสดงความยินดีกับมาครงแล้ว ทว่าเธอยังคงประกาศว่า เธอมีบทบาทหน้าที่ในฐานะที่เป็นฝ่ายค้านสำคัญที่สุดของฝรั่งเศส และขอเรียกร้องให้ “ผู้รักชาติทั้งหลายมาเข้าร่วมกับเรา” ในการก่อตั้ง “กลุ่มพลังทางการเมืองใหม่” ขึ้นมา โดยที่ผู้ช่วยของเธออธิบายว่า กลุ่มพลังใหม่นี้จะไม่ใช้ชื่อว่า “แนวร่วมแห่งชาติ” (เนชั่นแนลฟรอนต์) ตามชื่อพรรคขวาจัดของเธอ

เอ็มมานูแอล มาครง ผู้สมัครแนวทางสายกลางและโปรยุโรป กล่าวปราศรัยในคืนวันอาทิตย์ (7) ว่า เขาจะเยียวยาความแตกแยกต่างๆ ของฝรั่งเศส ภายหลังจากสามารถเอาชนะผู้นำขวาจัด มารีน เลอ แปน มาได้

“ผมได้ยินได้ฟังความโกรธเกรี้ยว, ความกระวนกระวาย, และความสงสัยข้องใจ ซึ่งพวกคุณจำนวนมากได้แสดงออกมา” มาครง กล่าว

“ผมจะต่อสู้ด้วยความเข้มแข็งทั้งหมดของผม เพื่อต่อต้านการแบ่งแยกต่างๆ ซึ่งกำลังบ่อนทำลายพวกเราอยู่”

“สร้างสายสัมพันธ์โยงใยระหว่างยุโรปกับพลเมืองของยุโรปขึ้นมาใหม่”

“หน้าใหม่ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเขากำลังเปิดขึ้นมาแล้วในค่ำคืนนี้” ว่าที่ผู้นำฝรั่งเศสกล่าว

พร้อมย้ำว่า “ฝรั่งเศสจะอยู่ที่แนวหน้าสุดของการสู้รบต่อต้านลัทธิก่อการร้าย”

ความคิดเห็น

comments