มัสยิดกว่า 750 แห่ง ตกเป็นเป้าโจมตีของกบฎฮูษีย์

กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูษีย์ และกองกำลังของอดีตประธานาธิบดี อาลี อัลดุลลอฮฺ ซอและห์ ที่ถูกขับไล่ ได้ก่อเหตุโจมตีและทำลายมัสยิดในเยเมนไปแล้วไม่น้อยกว่ากว่า 750 แห่ง

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมัสยิดเหล่านี้ รวมถึงการทำลายล้าง, การโจรกรรมเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของที่ทำด้วยโลหะหนัก การใช้มัสยิดสำหรับประโยชน์อื่น ที่รวมไปถึงการยึดมัสยิดเปลี่ยนมาเป็นค่ายทหาร

ตามรายงานของกลุ่มตรวจสอบการละเมิดชาวเยเมนตั้งแต่ปี 2013-2016

ตามรายงานผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าการระเบิดโจมตีมัสยิดจากการกระทำของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูษีย์เกิดจากมิติอุดมการณ์ทางศาสนา ต่อแนวคิดในการก่อสงครามของพวกเขา

โดยรายงานดังกล่าวชี้ว่ามัสยิดในจังหวัดที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮุษีย์ อย่างเช่นจังหวัด Sanaa เมืองหลวงของประเทศมีมัสยิดมากถึง 282 แห่งที่ถูกโจมตี และจังหวัด Saada มี 115 มัสยิดถูกโจมตี

รายงานยังชีว่ากลุ่มกบฎชีอะห์ฮูษีย์ หลังจากที่ได้เข้ารับการศึกษาที่เมืองกุมของอิหร่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาเริ่มต้นนำชนเผ่าฮูษีย์เข้ารุกรานเยเมนในเดือนมกราคม 2013 โดยพวกเขาได้มีการรวบรวมกำลังคน และวัตถุระเบิดเพื่อมุ่งกำหนดเป้าหมายไปยังมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดทันทีหลังจากที่เขาได้เข้ายึดครองหมู่บ้าน

รายงานผลการศึกษายังได้ชี้อีกว่า เป้าหมายการทำลายของกลุ่มกบฎฮูษีย์ยังมุ่งที่การทำลายสถานที่เปิดการเรียนการสอน อัลกุรอาน และหะดิษ ด้วยความพยายามที่จะลบล้างคำสอนทางศาสนาอิสลามจากอัลกุรอาน และซุนนะฮฺของท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และแทนที่ด้วยแนวคิดชีอะห์ของโคมัยนีย์ตามอุดมการณ์ และแนวคิดที่รับมาจากอิหร่าน

โดยรายงานดังกล่าวชี้ว่ามีโรงเรียนสอนศาสนาที่ให้ความรู้จากอัลกุรอาน และหะดิษ อย่างน้อย 14 แห่งถูกระเบิดโจมตีเสียหาย

รายงานยังกล่าวด้วยว่ากลุ่มกบฎชีอะห์ฮูษีย์ได้ระเบิดมัสยิด 80 แห่ง ขณะที่มัสยิด 41 แห่งถูกบุกปล้นโดยกลุ่มกบฎกลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีมัสยิด 117 แห่งถูกโจมตี ขณะที่มัยยิดอีก 157 แห่งถูกกลุ่มกบฏฮูษีย์ยึดไปทำเป็นสถานบริการสำหรับสูบ shisha

รายงานยังระบุด้วยว่ากลุ่มกบฎชีอะห์ฮูษีย์ได้ลักพาตัว และทรมานอิหม่าม 150 คน โดย 69 คนถูกลักพาตัวไปจากกรุงซานาเมืองหลวงของประเทศ ขณะที่ 29 คนถูกลักพาตัวไปจากจังหวัด Hudaida และ 25 คนถูกลักพาตัวไปจากจังหวัด Ibb โดยรายงานได้อธิบายว่ากลุ่มกบฎฮูษีย์ได้ใช้ความรุนแรง ทรมาน ในการบังคับให้ประชาชนในพื้นที่ยึดครองยอมจำนนต่อพวกเขาอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้รายงานยังเปิดเผยด้วยว่ากลุ่มกบฎฮูษีย์ ยังได้มุ่งเป้าไปที่การโจมตีแกนนำชุมชน และนักวิชาการท้องถิ่น เพื่อทำให้ประชาชนหวาดกลัว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ออกมาขัดขวางการยึดครองของพวกเขาด้วย

ที่มา อาหรับนิวส์

ความคิดเห็น

comments