1,500 มุสลิมลี้ภัยในโบสถ์ ความรุนแรงล่าสุดในแอฟริกากลาง

ชาวมุสลิมในแอฟริกากลางกว่า 1,500 คนยังคงต้องอยู่อย่างสิ้นหวังโบสถ์ หลังมัสยิดถูกโจมตีอิหม่ามถูกฆ่า ขณะที่ข้างนอกโบสถ์มีกลุ่มติดอาวุธคอยลาดตระเวนตลอดเวลา

ชาวมุสลิมอย่างน้อย 1,500 คนปัจจุบันยังคงติดอยู่ในคริสตจักรคาทอลิกในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศหลังจากความรุนแรงรอบใหม่ปะทุขึ้น ตามการเปิดเผยของอัลญะซีเราะห์

ผู้ลี้ภัยได้เข้าไปหลบในโบสถ์ในเมือง Bangassou(บังซาซู) หลังจากหนีความรุนแรงล่าสุดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

“สถานการณ์ไม่ปลอดภัยพอที่จะออกไปข้างนอก และพวกเขาไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้” หลวงพ่อ Alain Blaise Bissialo นักบวชของโบสถ์ กล่าว

“มีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินไปรอบ ๆ เมืองพร้อมอาวุธปืนในมือ”

ความรุนแรงในเมือง Bangassou(บังซาซู) เริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 พฤษภาคมที่ผ่านมาเมื่อกลุ่มติดอาวุธ Anti-balaka ที่ส่วนมากมาจากกลุ่มชาวคริสต์ได้เปิดฉากการโจมตีชุมชนชาวมุสลิมใน Tokoyo ซึ่ง เป็นย่าน ชาวมุสลิมในเมือง Bangassou(บังซาซู)

หลายพันคนพากันไปที่มัสยิดในบริเวณใกล้เคียงเพื่อลี้ภัย

อย่างไรก็ตามมัสยิดถูกโจมตีในเวลาต่อมา และจบลงด้วยการฆ่าชาวอิหม่ามประจำมัสยิด

ในความพยายามที่จะช่วยพลเรือนที่มัสยิดนั้นบิชอปคาทอลิกได้ส่งรถบรรทุกไปยัง Tokoyo เพื่อนำพี่น้องมุสลิมออกจากพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาไว้ที่โบสถ์เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา

“ในที่สุดมีชาวมุสลิมอย่างน้อย 150 คนถูกสังหารในระหว่างการใช้ความรุนแรงตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม แต่จำนวนที่แท้จริงอาจมีมากกว่านี้” Antoinne Mbao Bogo ประธานสาขากาชาดท้องถิ่นบอกกับอัลญะซีเราะห์เมื่อวันศุกร์ที่(16 มิถุนายน)ผ่านมา

Alidou Djibril ซึ่งเป็นผู้พลัดถิ่นในโบสถ์กล่าวว่าพวกเขาขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้า

“มันยากสำหรับเราเราต้องอยู่แต่ที่นี้โดยไม่สามารถออกไปใหนได้ และเรากำลังอดอาหาร” เขากล่าว

Djibril กล่าวว่าพวกเขาได้รับอาหารเพียงพอสำหรับสัปดาห์เดียวหลังจากมาถึงที่โบสถ์ และเสริมว่า Anti-balaka ไม่อนุญาตให้พ่อค้านำอาหารมาหาพวกเขา

ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ชาว Bangassou(บังซาซู) 35,000 คนส่วนใหญ่หนีไปยังสถานที่ต่างๆ สำหรับผู้พลัดถิ่นภายใน และบางคนได้เดินทางเข้าไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่มีพรมแดนติดกัน

MINUSCA, กองกำลังสหประชาชาติในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (CAR) กล่าวว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงใน Bangassou(บังซาซู) ได้สงบลงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ปลอดภัยเพียงพอที่ผู้ลี้ภัยจะเดินทางกลังเข้าบ้านพักของตน

“แม้จะมีการลาดตระเวนของ MINUSCA แต่พื้นที่ดังกล่าวไม่ปลอดภัยพอและบ้านเรือนและธุรกิจของพวกเขาก็ถูกทำลายไปแล้วและประชาชนหลาย ๆ คนไม่มีที่ไป” Vladimir Montiero โฆษกของ MINUSCA กล่าว กับ อัลญะซีเราะห์ จากกรุงบังกี เมืองหลวงของแอฟริกากลาง

“มันไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาที่จะออกจากโบสถ์”

Bob Libenge รักษาการประธานสาขากาชาดท้องถิ่นบอกกับอัลญะซีเราะห์ว่าบางคนกำลังนอนหลับอยู่ภายในโบสถ์และส่วนที่เหลืออยู่ข้างนอกบนเสื่อบนความสับสน

ขณะเดียวกัน องค์กรเอกชนหลายแห่ง ก็ได้ให้ความช่วยเหลือด้านอาหารและสุขาภิบาล

มีความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของ CAR ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาโดยมีกลุ่มติดอาวุธที่ปะทะกันอยู่ใน Bria, Alindou และ Bakouma

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ MINUSCA เตือนกลุ่ม แนวร่วมนิยมแห่งยุคฟื้นฟูแอฟริกากลาง (FPRC) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังติดอาวุธ Seleka เพื่อไม่ให้ก่อเหตุโจมตีเมือง Bangassou (บังซาซู) โดยเป็นห่วงว่าจะมีการสังหารชาวคริสเตียนในการแก้แค้นหากกลุ่มดังกล่าวเคลื่อนเข้ามาในเมือง

CAR ถูกรุมเร้าด้วยความรุนแรงหลังจากนักสู้ Seleka ที่นำโดยชาวมุสลิมได้ยกกำลังเข้าทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองเมื่อปี 2556 แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนและรวมตัวกันตั้งตัวเป็นทหารอาสาสมัครที่เรียตัวเองว่า Anti-balaka ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มติดอาวุธคริสเตียนได้ลงมือแก้แค้นในการโจมตีชุมชนมุสลิม จนทำให้ประเทศกลายเป็นสงครามกลางเมืองขึ้น

ความคิดเห็น

comments