เจ้าหน้าที่ในซินเจียงหลายร้อยถูกสอบความภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์

เจ้าหน้าที่ในเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง 355 ราย ถูกสอบเรื่องความภักดีที่มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ ถือเป็นสัญญาณจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงว่า แม้แต่สมาชิกพรรคฯ ก็อาจโดนฟันไม่เลี้ยงหากข้องเกี่ยวกับกลุ่มลัทธิแบ่งแยกดินแดน

สื่อจีนเปิดเผย ปีที่ผ่านมา (2557) เจ้าหน้าที่รัฐในซินเจียง 355 รายถูกสอบเรื่องความภักดีที่มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามากถึง 6 เท่าตัว ในอีกทางหนึ่ง ตัวเลขดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นความพยายามของพรรคฯ ในการขจัด ถอนรากถอนโคนสมาชิกพรรคฯ ที่คิดไม่ซื่อ

เจ้าหน้าที่ 355 นายที่ถูกสอบ พัวพันในกรณีที่ถูกไต่สวน 323 กรณี และ 333 นายได้รับโทษแล้วแต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการลงโทษแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ 32 รายที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนเกี่ยวข้องกับการที่กลุ่มมุสลิมเดินทางไปจาริกแสวงบุญที่นครเมกกะ อาทิ อดีตผู้อำนวยการสำนักกิจการจาริกแสวงบุญที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการกิจการชนชาติส่วนน้อยในซินเจียง (Xinjiang Ethnic Affairs Committee) หัวหน้ากรมการพิทักษ์สันติราษฎร์แคว้นปกครองตนเองคิซิลซู (Kizilsu) และผู้ว่าการเมืองอาร์ทักซ์ (Artux) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้นนี้

ทั้งนี้ การสอบสวนเจ้าหน้าที่ในซินเจียงที่เริ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการเดินหน้าไล่บี้ผู้ฝ่าฝืนวินัยพรรคฯ ที่เกิดขึ้นในเขตปกครองนี้ จากการเปิดเผยของ สื่อจีน Legal Daily รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในหน่วยตรวจสอบวินัยฯ ประจำภูมิภาค นอกจากนี้ ปีก่อนยังมีการตั้งสำนักงานที่ดูแลตรวจสอบเฉพาะเรื่องวินัยทางการเมือง โดยเพ่งเล็งไปที่กลุ่มผู้นำและสมาชิกพรรคฯ รายงาน ระบุเพิ่มเติม

ข่าวการสอบสวนเจ้าหน้าที่ 355 รายครั้งนี้ เปิดเผยออกมาไม่กี่วันหลังจากข่าวเจ้าหน้าที่ของพรรคฯ ในทิเบต 15 ราย ถูกลงโทษในความผิดร่วมมือกับกลุ่มเรียกร้องอิสระภาพและส่งข้อมูลลับให้กับทะไล ลามะ เพื่อ “กระทำการบางอย่างที่ถูกระบุว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ”

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่า ทั้งการมีใจเอนเอียงในประเด็นหลัก การต่อต้านพรรคฯอย่างชัดเจน และปฏิบัติการลับเพื่อต่อต้านรัฐบาลกลาง ต่างถือเป็นการละเมิดวินัยพรรคฯทั้งสิ้น

ในขณะที่นายเจียง เจ้าหย่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทางชาติพันธุ์ที่ประจำอยู่ในปักกิ่ง กล่าวว่า คำว่า “ทางการเมือง” ซึ่งไม่ใช่เรื่องการทุจริต ถือเป็นคำสำคัญ “แม้ไม่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ 300 กว่าคนนั้นทำอะไรลงไป แต่เห็นชัดเลยว่า ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง สิ่งที่พวกเขาทำนั้นคุกคามความมั่นคงของพรรคฯ” นายเจียง ระบุ

ด้านเจมส์ ไลโบล์ด (James Leibold) นักวิชาการด้านชาติพันธุ์ศึกษาจากมหาวิทยาลัยลา โทรป (La trobe) ของออสเตรเลีย กล่าวว่า การสอบสวนที่ขยายวงกว้างขึ้นถือเป็นสัญญาณจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ชี้ให้เห็นว่า ในการต่อสู้ต้านกับสิ่งที่พรรคฯ เรียกว่ากลุ่มสุดโต่งทางศาสนา หรือกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แม้กระทั่งสมาชิกของพรรคฯ ก็อาจถูกเล่นงานได้

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น