ชาวนครโวยพม.ขนย้ายชาวโรฮิงยาไม่แจ้งล่วงหน้า ขวางนักข่าวถ่ายภาพ

สำนักข่าว ASTV รายงานว่าเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญาทั้ง 99 ราย จากเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวไทยมุสลิมให้การดูแลชาวโรฮิงญาอย่างมาก ซ้ำร้ายยังห้ามมิให้สื่อบันทึกภาพ

วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพศูนย์ช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ของ สภ.หัวไทร ที่ชาวโรฮิงญาจำนวน 99 คนใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวมาเป็นเวลา 22 วัน เหลือเพียงกองเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว

หลังจากช่วงเช้าของวันนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าคัดแยกชาวโรฮิงญา และนำขึ้นรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ของศูนย์ประชาบดี และรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาของ สถานีตำรวจภูธรหัวไทร ย้ายออกไปให้ความดูแลต่อที่บ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 44 ราย ที่ศูนย์ พม.จังหวัดสงขลา 20 ราย และศูนย์ พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานีจำนวน 35 ราย โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องในการดูแลชาวโรฮิงญาทราบล่วงหน้าเว้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเคลื่อนย้ายมาถึงบ้านเด็ก และครอบครัวนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ โดยให้รออยู่ที่หน้าประตูรั้วเท่านั้น โดยภายในนั้นได้มีชาวไทยมุสลิมที่ให้การดูแลชาวโรฮิงญาเหล่านี้แสดงความไม่พอใจเนื่องจากเป็นการย้ายโดยไม่ทราบล่วงหน้า ขณะที่กรรมการมัสยิดได้ระดมทุนจากชาวไทยมุสลิมหลายพื้นที่เพื่อเป็นทุนในการดูแลด้านอาหาร และความเป็นอยู่ได้นานถึง 3 เดือน รวมทั้งการคัดแยกพี่น้อง ครอบครัวออกจากกัน โดยพี่น้องบางคนต้องไปยังสุราษฎร์ธานี และอีกคนต้องไปสงขลา ซึ่งจะมีการหารือกับชาวไทยมุสลิมในพื้นที่หัวไทรเพื่อให้การช่วยเหลือ

ขณะที่ชาวโรฮิงญา 15 ใน 44 รายที่ถูกดูแลอยู่ในบ้านเด็ก และครอบครัวนครศรีธรรมราช ยังต้องมีภาระทางด้านคดีที่เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปเบิกความในชั้นศาล และเมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว จะส่งต่อไปยังจังหวัดระนอง เพื่อเข้าศูนย์ฟื้นฟู และท้ายที่สุดหากไม่มีหน่วยงานใดในระดับสากลเข้าช่วยเหลือต่อทางการไทยอาจต้องผลักดันกลับประเทศพม่าต่อไป

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น