ซาอุฯเปิดเกาะในทะเลแดง “สร้างงานดึง-นักท่องเที่ยว”

มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน ได้ประกาศแผนการเมกะโปรเจกต์พัฒนาการท่องเที่ยวหมู่เกาะ 50 แห่งกลางทะเลแดงภายใต้ชื่อโครงการ “โปรเจกต์ทะเลแดง” หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ตามแผน 2030 ในการลดการพึ่งรายได้หลักจากขายน้ำมันดิบอย่างเดียว

เมื่อวันอังคารที่(1 สิงหาคม)ผ่านมา แถลงการณ์ที่ประกาศของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน ชี้ว่า โปรเจกต์ทะเลแดงนั้น จะได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากกองทุนลงทุนสาธารณะซาอุดิอาระเบีย PIF ของรัฐบาล

อาหรับนิวส์รายงานว่า กองทุนแห่งนี้มีเจ้าชาย มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน นั่งเป็นองค์ประธาน

โครงการพัฒนาดังกล่าวรัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะสร้างพื้นที่รีสอร์ตครอบคลุม 50 เกาะนอกชายฝั่งกลางทะเลแดงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดเศรษฐีจากต่างชาติ

ซึ่งแผนพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ 2030 ในการลดการพึ่งพารายได้ของประเทศจากการขายน้ำมันดิบเพียงอย่างเดียวไปสู่อุตสาหกรรมด้านอื่นแทน

ตามแถลงการณ์อย่างเป็นทางการโครงการโปรเจกต์ทะเลแดงจะเกิดขึ้นบนพื้นที่ 30,000 ตารางกิโลเมตร ระหว่างเมืองอัมลาจ(Amlaj) และเมือง อัล-จาวฮ์(al-Jawh) ซึ่งพื้นที่การพัฒนามีขนาดใหญ่กว่าประเทศเบลเยียม และโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนลงทุนสาธารณะซาอุดิอาระเบีย (PIF)

“โครงการนี้จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ ตั้งอยู่บนเกาะธรรมชาติจำนวนมากกลางทะเลแดง และนอกเหนือจากโปรเจกต์ โบราณสถานแห่ง มาเดียน ซอและ(Madain Saleh) นั้นมีความโดดเด่นอยู่ในตัวเองทางด้านสถาปัตยกรรม และในเชิงประวัติศาสตร์” แถลงการณ์ระบุ

พบว่า โครงการนี้ต้องการที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจากต่างประเทศเป็นหลัก และจะเริ่มเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 โดยในเฟสแรกจะประกอบไปด้วย การก่อสร้างโรงแรมที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมไปถึงระบบการขนส่ง ซึ่งร่วมไปถึง ฮับการคมนาคมสำคัญทางอากาศ ภาคพื้นดิน และทางทะเล โดยเชื่อว่า จะเสร็จสิ้นได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2022

กองทุน PIE `จะเป็นผู้สนับสนุนการลงทุนเบื้องต้น และหลังจากนั้นจะหาผู้ร่วมลงทุนจากนานาชาติ รวมไปถึงเครือโรงแรมชั้นนำให้เข้าร่วมโครงการ

ทางซาอุดิอาระเบียอ้างว่า โครงการโปรเจกต์ทะเลแดงจะสามารถสร้างงานถึง 35,000 ตำแหน่งหลังจากที่โครการเสร็จสิ้น และได้เริ่มเปิดดำเนินการไปแล้ว และคาดว่าจะนำรายได้เพิ่ม 15 พันล้านริยาด (4 พันล้านดอลลาร์)สู่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ทั้งนี้การเปิดการท่องเที่ยวทะเลแดงจะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการท่องเที่ยวซาอุฯ ที่แต่เดิมเน้นในด้านเชิงศาสนาเป็นหลัก

ความคิดเห็น

comments