บังกลาเทศช่วยพม่าปราบกลุ่มนักรบโรฮิงญา เผยหมู่บ้าน 10 แห่งถูกเผา

บังกลาเทศ เสนอปฏิบัติการร่วมทางทหารกับพม่าปราบปรามกลุ่มนักรบโรฮิงญาที่ต่อสู้ในรัฐยะไข่ ขณะที่สหประชาชาติแสดงความวิตกเกี่ยวกับรายงานว่ามีพลเรือนถูกสังหารในเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 5 วัน NGO เผยภาพดาวเทียมมีหมู่บ้านโรฮิงญาถูกเผาแล้วนับ 10 แห่ง

การสู้รบปะทุขึ้นในรัฐยะไข่ตั้งแต่วันศุกร์ (25) เมื่อกลุ่มนักรบโรฮิงญาซุ่มโจมตีกองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่าพร้อมกันหลายจุด และการตอบโต้ของฝ่ายพม่าทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน โดยเป็นผู้ก่อเหตุประมาณ 80 คน และยังทำให้ชาวโรฮิงญาอีกหลายพันคนอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศ

นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อรายงานการเสียชีวิตของพลเรือนในปฏิบัติการความมั่นคงในรัฐยะไข่ของพม่า และเรียกร้องให้บังกลาเทศเพิ่มความช่วยเหลือต่อพลเรือนที่หลบหนีความรุนแรง โดยระบุว่า ผู้ที่หลบหนีเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และเด็ก และส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

หน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ระบุว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญามากกว่า 3,000 คน เดินทางมาถึงบังกลาเทศ

บังกลาเทศระบุว่า มีชาวโรฮิงญาหลายพันคนอยู่บริเวณชายแดนติดกับพม่า ซึ่งกรุงธากาได้เพิ่มการลาดตระเวน และผลักดันพลเรือนหลายร้อยคนที่พยายามจะเข้ามาในเขตแดนกลับออกไป

ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาชายแดนเปิดเผยต่อรอยเตอร์ว่า พวกเขาได้ส่งชาวโรฮิงญากลับฝั่งพม่าแล้วประมาณ 550 คน ตั้งแต่วันจันทร์ (26) ผ่านทางแม่น้ำนาฟที่กั้นกลางระหว่างสองประเทศ แม้เลขาธิการสหประชาชาติ จะร้องขอให้กรุงธากาอนุญาตให้ชาวโรฮิงญาแสวงหาที่ปลอดภัยก็ตาม

ชาวโรฮิงญาประมาณ 5,000 คน สามารถข้ามเข้ามาในเขตแดนของบังกลาเทศในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ โดยส่วนใหญ่ลักลอบเข้ามาในเวลากลางคืนผ่านพรมแดนทางบก

เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ระบุว่า มีหลายคนล้มป่วย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน หลังข้ามพรมแดน เพราะความรู้สึกหวาดกลัวว่าจะถูกจับกุม และส่งตัวกลับทำให้บางส่วนปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือ

“สิ่งที่เรากำลังเห็นคือ ชาวโรฮิงญาหลายคนป่วย เพราะติดค้างอยู่ตามชายแดนก่อนข้ามเขตเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และเด็ก บางส่วนปฏิเสธที่จะรับการรักษาเพื่อเลี่ยงการจับกุม” เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานระหว่างประเทศในบังกลาเทศที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อ หรือหน่วยงาน กล่าว

การอพยพของชาวโรฮิงญาเหล่านี้เกิดขึ้นในขณะที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุหน่วยงานมีข้อมูลดาวเทียมที่ดูเหมือนเป็นการเผาทำลายพื้นที่อยู่อาศัยใน 10 แห่งใกล้บังกลาเทศ ที่รวมทั้งหมู่บ้านโรฮิงญา และถิ่นฐานของชาวยะไข่ที่ถูกกลุ่มนักรบโจมตี

อัลญะซีเราะห์รายงานว่าชาวโรฮิงญา และนักเคลื่อนไหวระบุว่าทหารพม่าได้ทำการสังหารชาวโรฮิงญาไม่เว้นแม้ชาย หญิง และเด็ก ก่อนจะก่อเหตุเผาบ้านเรือนของพวกเขา

HRW กล่าวถึงการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมว่าสถานที่เกิดเพลิงไหม้มีความสัมพันธ์กับคำบอกเล่าของพยานบางส่วน และรายงานจากสื่อที่อธิบายถึงการตั้งเป้าหมายอย่างจงใจในการโจมตี

“ข้อมูลดาวเทียมใหม่นี้น่าจะทำให้เกิดความกังวล และการดำเนินการโดยผู้บริจาคและหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติเพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลพม่าเปิดเผยขอบเขตการทำลายล้างอย่างต่อเนื่องในรัฐยะไข่” ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของ HRW กล่าวในแถลงการณ์

ในการพบหารือกับอุปทูตพม่าในกรุงธากา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศเสนอความพยายามร่วมกันทางทหารเพื่อต่อสู้กับกลุ่มนักรบตามแนวชายแดน

“หากพม่าต้องการ กองกำลังรักษาความมั่นคงของสองประเทศสามารถดำเนินการปฏิบัติการร่วมกันต่อสู้กับกลุ่มนักรบ หรือกองทัพอาระกันตามแนวพรมแดนบังกลาเทศ-พม่า” เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ กล่าว

กองทัพกอบกู้โรฮิงญาแห่งรัฐอาระกัน (ARSA) เป็นกลุ่มที่ถูกพม่าเรียกว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ที่ออกมาระบุว่าพวกตนต่อสู้เพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยมุสลิมจากการข่มเหงทารุณโดยกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่า และชุมชนชาวพุทธยะไข่

แต่ยังไม่มีความเห็นจากฝั่งนักการทูตพม่าในเรื่องนี้

ในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ความรุนแรงในรัฐยะไข่เลวร้ายลงเรื่อยๆ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของบังกลาเทศได้เรียกอุปทูตพม่าประจำกรุงธากาเข้าพบที่ได้แสดงความรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ลี้ภัยไหลบ่าเข้ามาระลอกใหม่

ปัจจุบัน บังกลาเทศมีผู้ลี้ภัยโรฮิงญาอาศัยอยู่ตามค่ายต่างๆ ใกล้ชายแดนพม่าแล้วราว 400,000 คน และทางการกรุงธากาได้ร้องขอให้พม่ารับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับประเทศ และจัดการต่อต้นตอของปัญหา

https://www.youtube.com/watch?v=lXQVs4xfKGI

ความคิดเห็น

comments