พม่าอ้อน “จีน-รัสเซีย” ขวางมติ UN กรณีปราบโรฮิงญา

พม่ากำลังเจรจาขอให้ “จีน-รัสเซีย” พันธมิตรที่เหนีียวแน่นช่วยขัดขวางการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรื่องความรุนแรงจากการปราบปรามของทหารพม่าจนส่งผลให้ชาวโรฮิงญานับแสนต้องหนีตายเข้าไปในบังกลาเทศในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์

ต่อง ตุน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติพม่า กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงเนปีดอว่า พม่ากำลังพึ่งพาจีนและรัสเซีย ซึ่งทั้งสองต่างเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่จะช่วยพม่าในการสกัดกั้นมติเกี่ยวกับวิกฤตินี้

“เรากำลังเจรจากับมิตรประเทศที่จะไม่นำเรื่องเข้าคณะมนตรีความมั่นคง จีนเป็นเพื่อนของเรา และเรามีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับรัสเซียเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่น่าที่จะเป็นไปได้ที่ประเด็นนี้จะเดินหน้าต่อ” ต่อง ตุน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ในเมืองคอกซ์บาซาร์ บังกลาเทศ รายงานว่าเรือที่เต็มไปด้วยชาวโรฮิงญาที่อ่อนล้ามาถึงพื้นที่ใกล้หมู่บ้านชามลาปูร์ ใกล้ชายแดน

ตามการประเมินล่าสุดของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติที่ปฏิบัติงานในบังกลาเทศระบุว่า ผู้ที่อพยพเข้ามาใหม่ในระยะเวลา 12 วัน มีถึง 146,000 คน จากจำนวนดังกล่าว ทำให้ชาวโรฮิงญาที่หนีตายตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้รวมแล้ว 233,000 คน

การไหลบ่าของผู้ลี้ภัย ที่หลายคนมีอาการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทรัพยากรของหน่วยงานช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และชุมชนต่างๆ เริ่มขาดแคลน เนื่องจากได้เข้าช่วยเหลือชาวโรฮิงญาหลายแสนคนที่หนีภัยความรุนแรงในพม่าตั้งแต่ครั้งก่อน และหน่วยงานบรรเทาทุกข์กำลังรีบเร่งจัดหาน้ำสะอาด สุขอนามัย และอาหาร

อย่างไรก็ตามผู้ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนและโรฮิงญาที่หลบหนีไปบังกลาเทศกล่าวว่า กองทัพพม่ากำลังพยายามบีบบังคับพวกเขาให้ออกไปจจากพื้นที่ด้วยการวางเพลิงและการสังหาร

ขณะที่พม่ากำลังวางกับระเบิดทั่วพื้นที่ชายแดนติดบังกลาเทศในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แหล่งข่าวในบังกลาเทศระบุว่าวัตถุประสงค์ของการวางกับระเบิดอาจเพื่อป้องกันโรฮิงญาที่หลบหนีความรุนแรงหวนกลับมาพม่า และบังกลาเทศจะยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการถึงการวางกับระเบิดใกล้พรมแดนนี้

แหล่งข่าวทหารพม่าอ้างว่า กับระเบิดถูกวางตามแนวพรมแดนตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เพื่อป้องกันการบุกรุกและทหารได้พยายามที่จะเก็บกู้กับระเบิดเหล่านั้น แต่ไม่มีการวางใหม่ในช่วงนี้

ความคิดเห็น

comments