เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 กันยายน) ดูไบได้ดำเนินการทดสอบเที่ยวบินหนึ่ง ซึ่งจะกลายเป็นบริการแท็กซี่โดรนแห่งแรกของโลกเร็วๆ นี้ ภายใต้แผนที่จะทำให้รัฐอาหรับแห่งนี้เป็นผู้นำโลกด้านนวัตกรรม
แท็กซี่บินได้ไร้คนขับลำนี้พัฒนาโดย โวโลคอปเตอร์ บริษัทอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) สัญชาติเยอรมนี โดยมันมีลักษณะคล้ายเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก 2 ที่นั่ง ด้านบนเป็นตะแกรงทรงกลมสำหรับติดตั้งใบพัด 18 ใบ
เชค ฮัมดัน บิน มูฮัมหมัด เจ้าชายแห่งนครดูไบเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการทดสอบโดรนแท็กซี่ลำดังกล่าวด้วยตนเอง
ด้วยความตั้งใจให้โดรนแท็กซี่บินโดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบนำร่องควบคุมจากระยะไกลและใช้เวลาบินอยู่ในอากาศได้นานสูงสุด 30 นาที อากาศยานลำนี้จึงติดตั้งระบบป้องกันความผิดพลาดต่างๆ ในกรณีที่เกิดปัญหา ในนั้นรวมถึงระบบแบตเตอรีสำรองและใบพัดสำรอง และร่มชูชีพ 2 อัน กรณีเจอสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
โวโลคอปเตอร์ กำลังแข่งขันกับเหล่าบริษัททุนหนาจากยุโรปและสหรัฐฯหลายสิบแห่ง สำหรับสร้างระบบการขนส่งในตัวเมืองรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งผสมผสานระหว่างยานพาหนะไฟฟ้าไร้คนขับกับการเดินทางระยะสั้นๆ นั่นก็คืออากาศยานที่สามารถเทคออฟและลงจอดในแนวตั้ง
ในบรรดาบริษัทเหล่านั้น รวมไปถึง แอร์บัส ซึ่งมีเป้าหมายนำแท็กซี่อัตโนมัติขึ้นสู่อากาศในปี 2020 เช่นเดียวกับ คิตตี ฮอว์ค บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก แลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล และอูเบอร์ ต่างก็กำลังทำงานร่วมกันด้านยุทธศาสตร์แท็กซี่บินได้ของตนเอง
“วิธีปฏิบัติ คือคุณจะต้องใช้สมาร์ทโฟน มีแอพพลิเคชัน และออกคำสั่งให้โวโลคอปเตอร์ไปยังโวโลพอร์ท(ลานจอดโวโลคอปเตอร์) ใกล้ๆคุณ โวโลคอปเตอร์จะเดินทางไปและรับคุณขึ้นเครื่องโดยอัตโนมัติ พาคุณไปส่งยังจุดหมายปลายทาง” ฟลอเรียน รอยเตอร์ ซีอีโอของโวโลคอปเตอร์กล่าว
“ปัจจุบันมันมีความสามารถบินตามเส้นทางจีพีเอสได้แล้ว และเราจะนำมันไปใช้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้แล้วมันยังสามารถจัดการกับสิ่งกีดขวางไม่ทราบชนิดระหว่างทาง” เขากล่าว พร้อมเผยว่าพวกนักพัฒนามีเป้าหมายนำโดรนแท็กซี่เข้าสู่การบริการภายใน 5 ปี
ในเที่ยวทดสอบเมื่อวันจันทร์ (25) อากาศยานลำดังกล่าวลอยขึ้นไปสูงราว 200 เมตรและบินร่อนเหนือชายฝั่งอ่าวอาหรับของนครดูไบเป็นเวลาราวๆ 5 นาที
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังเดินหน้าพัฒนาตนเองให้เป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีในภูมิภาค นอกจากโดรนแท็กซี่ และเครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว UAE ยังมีแผนส่งยานอวกาศไร้มนุษย์ขึ้นไปยังดาวอังคารในปี 2021 ซึ่งถือเป็นชาติแรกของโลกอาหรับที่มีภารกิจสู่อวกาศ
ขณะเดียวกันก็ยังมีแนวคิดอีกหลายทางที่จะนำพาพวกเขาสู่อนาคตที่ก้าวล้ำทางเทคโนโลยีของโลก อาทิการพัฒนาระบบรถไฟฟฟ้าใต้ดินไร้คนขับแห่งแรกของภูมิภาคและหุ่นยนต์ตำรวจต้นแบบ