เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้ออกคำสั่งปิดมัสยิดอิบรอฮีม ห้ามชาวมุสลิม และผู้ที่ไม่ใช่ชาวยิวเข้าพื้นที่ โดยจะอนุญาตให้เฉพาะชาวยิวเท่านั้นเข้าพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝั่งตะวันตกของเมือง Hebron ในช่วงวันหยุด Sukkot ของชาวยิว
สำนักข่าว Ma’an รายงานว่า Hafzi Abu Sneneh ผู้อำนวยการมัสยิดกล่าวว่าเขาได้รับแจ้งว่าสถานที่ดังกล่าวจะถูกปิดสำหรับชาวมุสลิมตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันอาทิตย์(8 ตุลาคม) จนถึงวันอังคาร(10 ตุลาคม) ตามรายงานของสำนักข่าววาฟาของปาเลสไตน์ โดย Abu Sneneh กล่าวเพิ่มเติมว่าการเข้าพื้นที่เพื่อละหมาดก็จะถูกสั่งห้ามในช่วงเวลาปิดมัสยิดตามคำสั่งของอิสราเอลด้วย
คำสั่งที่ร้ายแรงสำหรับชาวปาเลสไตน์ – รวมถึงการปฏิเสธการเข้าถึงมัสยิดอิบรอฮีม – โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนของชาวยิวเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย ดินแดนที่ถูกยึดครองในเวสต์แบงก์ และดินแดนที่ถูกปิดล้อมในฉนวนกาซายังถูกกำหนดเป็นพื้นที่ปิดกั้นทางทหารทั่วไปเป็นเวลา 11 วันสำหรับวันหยุดของชาวยิว
มัสยิดซึ่งชาวยิวเชื่อว่าเป็นสถานที่ฝังศพของท่านนบีอิบรอฮีม ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวมุสลิม และชาวยิว ซึ่งมีความความตึงเครียดที่เกิดจากความรุนแรงเป็นเวลาหลายสิบปี
สถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นโบสถ์ที่ชาวยิวรู้จักกันในชื่อ Cave of Patriarchs และมัสยิดดังกล่าวยักเคยเกิดเหตุรุนแรงครั้งประวัติศาสตร์เมื่อ Baruch Goldstein ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่เกิดในสหรัฐอเมริกาก่อเหตุใช้ปืนกราดยิวชาวมุสลิมในมัสยิดเสียชีวิต 29 รายในปี 1994
ตั้งแต่การแบ่งแยกเกิดขึ้น ชาวมุสลิมจะถูกปฏิเสธการเข้าถึงพื้นที่ในช่วงวันหยุดของชาวยิว และในทางกลับกันในความพยายามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงจากการปะทะในที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเฮบบรอนซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวสต์แบงก์ที่ยังหลงเหลืออยู่เมืองเก่าถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ควบคุมของชาวปาเลสไตน์และอิสราเอลในเวลานั้นเรียกว่า H1 และ H2
ผู้ตั้งถิ่นฐานที่ชาวยิว 800 รายที่ฉาวโฉ่ตอนนี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของทหารอิสราเอลในเมืองเก่าล้อมรอบด้วยชาวปาเลสไตน์กว่า 30,000 คน
