แพ้แล้วพาล สหรัฐฯตัดงบ UN หลังแพ้มติเยรูซาเล็ม

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะตัดงบประมาณช่วยเหลือสหประชาชาติประจำปี 2018 – 2019 เป็นการเดินหน้าทำตามคำประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ไม่พอใจจากกรณีแพ้โหวตในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติประเด็น “เยรูซาเล็ม”

คำแถลงของคณะผู้แทนสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ระบุว่า งบประมาณในปีหน้าจะมีการตัดไปมากกว่า 285 ล้านดอลลาร์ และการตัดงบโดยที่ไม่ระบุรายละเอียดนี้จะเกิดขึ้นกับส่วนของการบริหารจัดการและสนับสนุนการทำงานของสหประชาชาติ

อย่างไรก็ตาม การประกาศนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนถึงจำนวนงบประมาณทั้งหมด รวมถึงไม่ได้ระบุว่าการตัดงบนี้จะเกิดผลกระทบอย่างไรกับการสนับสนุนสหประชาชาติของสหรัฐฯ

“เราจะไม่ยอมอีกต่อไป ที่จะให้ความเอื้ออาทรของชาวอเมริกันต้องถูกเอาเปรียบ การใช้จ่ายมากเกินไปและไร้ประสิทธิภาพขององค์กรนี้เป็นที่รู้กันดี” นิกกี้ เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าว

ภายใต้กฏบัตรสหประชาชาติ อเมริกานั้นรับผิดชอบ 22 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณดำเนินการประจำปีของสหประชาชาติ ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2017-2018 กับค่าใช้จ่าย 28.5 เปอร์เซ็นต์ของปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ซึ่งประเมินว่าอยู่ที่ตัวเลข 6.8 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน

ในคำแถลงของเฮลีย์ ระบุว่า เธอยินดีกับผลการเจรจาเรื่องงบประมาณ ทางคณะผู้แทนของสหรัฐฯ จะเดินหน้าหาหนทางเพิ่มประสิทธิภาพของสหประชาชาติต่อไป โดยที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไปด้วย

ช่วงเวลาของการประกาศครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงไม่พอใจต่อกรณีที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติลงมติประณามสหรัฐฯ เรื่องรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล

หลังการโหวต เฮลีย์ได้พูดย้ำว่า อเมริกานั้นเป็นผู้ให้การสนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของสหประชาชาติ และจะจดจำการโหวตครั้งนี้เอาไว้ เมื่อถึงคราวที่หลายประเทศร้องขอความช่วยเหลืออย่างที่ทำกันเป็นประจำ พวกเขาจะต้องจ่ายเพิ่มสำหรับการใช้อิทธิพลของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา

ก่อนการโหวต ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้พูดต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสหรัฐฯ เอาไว้ว่า ให้พวกนั้นโหวตต่อต้านมาเลย เราจะประหยัดเงินได้เยอะ เราไม่สนใจหรอก แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมแล้วที่พวกนั้นโหวตต้านเราแล้วยังจะได้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์

เมื่อวันอาทิตย์ กัวเตมาลาเพิ่งเป็นประเทศแรกที่เดินตามการก้นของทรัมป์ ในการประกาศย้ายสถานทูตไปเยรูซาเล็ม โดยประกาศกล่าวไม่สดใจหากต้องกระทบกับความสัมพันธ์กับชาติอื่น

ความคิดเห็น

comments