ทางการบังกลาเทศเมื่อวันอังคาร(10ก.พ.) มีคำสั่งห้ามรถบัสโดยสารเส้นทางระยะไกลวิ่งในยามค่ำคืน หลังเกิดเหตุถูกโจมตีด้วยระเบิดเพลิง 2 ครั้ง คร่าชีวิตผู้คนรวม 16 ศพ ระหว่างสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ
การโจมตี 2 ครั้งดังกล่าวถือเป็นเหตุนองเลือดครั้งเลวร้ายที่สุดในบังกลาเทศ นับตั้งแต่สถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองปะทุขึ้นมาเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม หลังจากพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องปิดกั้นระบบขนส่งมวลชนทั่วประเทศ เพื่อกดดันให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่
อาสาดุซซามาน คาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยบอกว่าเหล่าผู้ประกอบการด้านการขนส่งยินยอมที่จะงดวิ่งรถโดยสารหลังเวลา 21.00 น. แม้ยานพาหนะอื่นๆยังจะปฏิบัติการตามปกติ “จะไม่มีรถบัสวิ่งรับส่งผู้โดยสารในยามค่ำคืน จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว
มีรถบัส รถบรรทุกและรถตู้ถูกโจมตีด้วยระเบิดเพลิงแล้วมากกว่า 1,000 คัน ขณะที่รัฐบาลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน ส่วนหนึ่งของปฏิบัติการปิดกั้นการขนส่ง ซึ่งมีเป้าหมายโค่นล้มนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา
เหล่าแกนนำภาคธุกิจเปิดเผยว่าความรุนแรงที่กำลังลุกลามได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 82 ศพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน และก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
มีประชาชนหลายล้านคนในบังกลาเทศที่ต้องพึ่งพารถบัสโดยสารระยะไกล อย่างไรก็ตามเหล่าผู้ประกอบการต้องประสบกับภาวะขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปฏิบัติการปิดกั้นถนนของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเริ่มต้นขึ้น
คาเลดา เซีย ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องปิดกั้นถนน ทางรถไฟและเส้นทางน้ำต่างๆ หลังจากตำรวจเข้าปิดล้อมและกักบริเวณเธออยู่แต่ภายในสำนักงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม
เซีย ยืนยันว่าพรรคชาตินิยมบังกลาเทศ (บีเอ็นพี) ของเธอไม่ได้อยู่เบื้องหลังความรุนแรง แต่ประกาศจะเดินหน้าปิดกั้นถนนไปจนกว่าฮาซินา ยินยอมจัดเลือกตั้งใหม่ ทั้งนีเธอนำพันธมิตรฝ่ายค้าน 20 พรรค คว่ำบาตรการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้ว โดยอ้างว่ามีการโกงอย่างมโหฬาร
ทางการได้ประจำการทหารและตำรวจหลายพันนายเข้าคุ้มครองยานพาหนะต่างๆและจับกุมผู้ประท้วงไปแล้วมากกว่า 10,000 คน แต่ความไม่สงบยังไม่มีทีท่าบรรเทาลง
