ผวจ.นราฯ เตรียมบรรจุวิชาประวัติชาติและบุญคุณพระมหากษัตริย์สอนในปอเนาะ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เตรียมบรรจุวิชาประวัติชาติและบุญคุณพระมหากษัตริย์ สอนในสถาบันศึกษาปอเนาะใต้ หวังเป็นวัคซีนป้องกันการบิดเบือน และความขัดแย้งพื้นที่ชายแดนใต้

MGR Online รายงานวันพฤหัสบดี (11 มกราคม) ที่ห้องประชุมโรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส น.อ.เทอดเกียรติ จิตต์แก้ว รอง กอ.รมน. จ.นราธิวาส และนายณัฐพงษ์ นวลมาก ผอ.สำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ.นราธิวาส ได้ร่วมกันแถลงข่าวโครงการจัดกระบวนการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ชาติและบุญคุณพระมหากษัตริย์ไทย เพื่อบรรจุเป็นวิชาสอนในสถาบันปอเนาะ หรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ในพื้นที่ 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส จำนวน 62 แห่ง ซึ่งได้ทยอยเปิดการเรียนการสอนไปแล้วบางส่วน จากพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

และในช่วงภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2560 ที่จะถึงนี้ ทางสำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทั่วประเทศ จะเปิดการเรียนการสอนเป็นรายวิชาบังคับอีกวิชาหนึ่งที่นักศึกษา กศน.ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาล เพื่อสืบสานพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นับตั้งแต่เสด็จครองสิริราชสมบัติตราบจนเสด็จสวรรคต ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่ขาดความเข้าใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย และการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน โดยมีครู กศน.ที่ผ่านการอบรมสอนวิชาดังกล่าว จำนวน 50 คน เข้าร่วมและรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

ด้าน นายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า ความเห็นต่าง ความขัดแย้งยังคงมีอยู่ การถ่ายทอดด้านประวัติศาสตร์ชาติและพระมหากษัตริย์ไทย มีความสำคัญในการอยู่ร่วมกันทางพาหุวัฒนธรรมในเรื่องของศาสนา ซึ่งยังมีกลุ่มคนส่วนน้อยไม่ยอมเข้าใจ พยายามใช้ประเด็นของประวัติศาสตร์สร้างความขัดแย้ง จนขยายผลไปสู่การใช้ความรุนแรง

ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นนำเอาประวัติศาสตร์ชาติ และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย โดยเฉพาะในหลวงรัชกาลที่ ๙ นำมาปูพื้นฐานให้นักเรียนได้เรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง เพื่อได้ถ่ายทอดต่อไปยังพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเป็นการสกัดกั้นการนำมาบิดเบือน ซึ่งนักเรียนจะได้ภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย และได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย จนถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

ด้าน นายมนต์ชัย สะรี ซึ่งเป็นโต๊ะครู และผู้ได้รับใบอนุญาตสถาบันปอเนาะแสงอรุณศาสน์ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า สิ่งที่ประทับใจคือ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและพระมหากษัตริย์ไทย ว่า กว่าที่จะเราจะอยู่เป็นสุขได้บรรพบุรุษต้องเสียสละให้ลูกหลาน และทำให้นักเรียนรู้สึกถึงความเสียสละของบรรพบุรุษ ทำให้รู้จักหน้าที่ความเป็นพลเมืองดี และรู้จักความรักความสามัคคีที่ต้องอยู่ร่วมกัน ในความแตกต่างพหุวัฒนธรรม ซึ่งพร้อมที่จะถ่ายทอดสู่เยาวชน และคนรุ่นใหม่เข้าใจในเรื่องประวัติศาสตร์ และคุณแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงมอบให้แก่ปวงชนชาวไทยอย่างมหาศาล มากมายนับไม่ถ้วน

ขณะที่ นายณัฐพงษ์ นวลมาก ผอ.สำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ.นราธิวาส ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้นโยบายเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้มีโครงการจัดกระบวนการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ชาติ และบุญคุณพระมหากษัตริย์ไทยที่มีประโยชน์มากที่สุดในครั้งนี้ด้วย

ความคิดเห็น

comments