นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา ของบังกลาเทศ กล่าวว่า ประชาคมโลกจำเป็นต้องกดดันพม่าให้มากขึ้นในการรับผู้ลี้ภัยโรฮิงญากลับประเทศ ตั้งคำถามพม่ารับโรฮิงญากลับครอบครัวเดียว แถมไม่เกี่ยวกับ 8,000 รายชื่อที่บังกลาเทศส่งให้
“ประชาคมโลกจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันต่อพม่าให้มากยิ่งขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะรับคนของตัวเองกลับไป และรับรองความปลอดภัยของชาวโรฮิงญาเหล่านั้น” ฮาซินา กล่าวที่กรุงลอนดอน
“พม่า กล่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะรับโรฮิงญากลับ แต่พวกเขายังไม่เริ่มดำเนินการ” นายกบังกลาเทศ กล่าว
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ กล่าวว่า ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 700,000 คน ได้หนีตายจากการปราบปรามทางทหารที่รุนแรงในรัฐยะไข่ของพม่าไปยังบังกลาเทศ เพื่อหลบหนีการปราบปรามของทหารตั้งแต่ 25 สิงหาคม โดยชาวโรฮิงญายืนยันว่ามีการสังหาร การข่มขืน และการวางเพลิงโดยกองกำลังทหารของพม่า และกลุ่มม็อบชาวยะไข่ ในการกระทำที่สหประชาชาติ ระบุว่า เป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
ด้าน บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ และคริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา เรียกร้องการสืบสวนการกระทำทารุณโหดร้ายที่ถูกรายงาน
“เจ้าหน้าที่พม่าจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจริงจังต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของโรฮิงญา” จอห์นสัน กล่าว
ชีค ฮาซินา กล่าวว่า บังกลาเทศได้ส่งรายชื่อครอบครัวชาวโรฮิงญา 8,000 ชื่อ สำหรับการส่งกลับประเทศให้แก่พม่า แต่จนถึงขณะนี้พม่ายังปฏิเสธที่จะรับกลับ
พม่า และบังกลาเทศเห็นพ้องกันในเดือนมกราคม ที่จะดำเนินการส่งผู้ลี้ภัยโรฮิงญากลับประเทศให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 2 ปี
ผู้นำบังกลาเทศยังโต้แย้งการการนำเสนอข่าวประชาสัมพันธ์ของพม่าที่ระบุว่า ได้รับครอบครัวชาวโรฮิงญาที่มีสมาชิก 5 คน กลับประเทศจากบังกลาเทศ โดยระบุว่า ครอบครัวโรฮิงญาดังกล่าวอาศัยอยู่ในบริเวณที่ไม่มีผู้ครอบครองระหว่างสองประเทศ
“พวกเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน บางทีพม่าอาจต้องการแสดงให้โลกเห็นว่า พวกเขากำลังรับโรฮิงญากลับ มันเป็นสัญญาณที่ดี แต่เหตุใดพวกเขาถึงรับกลับแค่เพียงแค่ครอบครัวเดียว เรายื่นรายชื่อครอบครัวโรฮิงญาไปแล้วถึง 8,000 ชื่อ แต่พวกเขากลับไม่รับกลับ” ชีค ฮาซินา กล่าว
ผู้นำบังกลาเทศยังคงยืนยันแผนการที่จะย้ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญา 100,000 คน ไปที่เกาะไร้ผู้อาศัยในอ่าวเบงกอล และปฏิเสธถึงความวิตกว่าการอยู่อาศัยบนเกาะที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม
“เราหวังที่จะย้ายพวกเขาไปอยู่ที่เกาะ บังกลาเทศมักมีน้ำท่วมเสมอ แต่ค่ายผู้ลี้ภัยก็ไม่ปลอดภัย เราได้เตรียมที่ที่ดีกว่าไว้สำหรับพวกเขาที่จะใช้ชีวิตอยู่ ที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้บวกกับฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง อาจเกิดดินยุบ หรืออุบัติเหตุต่างๆ ได้” ฮาซินา กล่าว
หน่วยงานช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ต่างวิตกถึงแผนการย้ายที่อยู่อาศัย และเชื่อว่าจะทำให้ผู้ลี้ภัยโรฮิงญาเผชิญต่อพายุไซโคลน น้ำท่วม และการค้ามนุษย์