ออสซีเผยไซโคลนมาร์เซียพังบ้านกว่า 1,500 หลัง ไฟฟ้า-โทรศัพท์ยับเยิน

เจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียระบุในวันนี้ (22 ก.พ.) ว่ากำลังทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนมาร์เซีย ที่ถล่มรัฐควีนส์แลนด์ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราว 1,500 หลัง รวมถึงยังมีคนอีกหลายพันที่ต้องอยู่แบบไม่มีไฟฟ้าใช้

ASTV รายงานว่ามาร์เซีย คือหนึ่งในพายุไซโคลนสองลูกที่ถล่มทางเหนือของออสเตรเลียเมื่อวันศุกร์ โดยลูกแรก คือ พายุไซโคลนแลม ที่เข้าถล่มบริเวณชุมชนที่ห่างไกลในรัฐนอร์เทิร์น เทอร์ริทอรี ใกล้กับเกาะเอลโค ห่างจากเมืองดาร์วินไปทางตะวันออก 500 กิโลเมตร

พายุไซโคลนมาร์เซียที่มีความรุนแรงในระดับ 5 ได้สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ทางตะวันออกของรัฐควีนส์แลนด์ จุดที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือเมืองเยพพูน ซึ่งอยู่ห่างจากบริสเบนขึ้นไปทางเหนือราว 670 กิโลเมตร หลังจากนั้นพายุไซโคลนมาร์เซียก็ได้มุ่งหน้าลงใต้ไปยังร็อกแฮมตัน

“เราได้ประเมินแล้วว่าน่าจะมีมากกว่า 1,500 หลังคาเรือนที่ได้รับความเสียหายทางด้านโครงสร้าง” แอนนาสตาเซีย พาลาสซัค ผู้ว่าฯ รัฐควีนส์แลนด์ กล่าว

“ในเยปพูนและร็อกแฮมตัน มีราวๆ 100 หลังที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ผู้คนกลับไปอาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขาไม่ได้ ตอนนี้เราจึงให้ความสำคัญไปยังบรรดาครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงก่อนเป็นลำดับต้นๆ” ผู้ว่าฯ กล่าว

ในขณะที่มีการเร่งเก็บกวาดซากความเสียหาย บรรดาบริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้าและโทรศัพท์ก็กำลังทำงานเพื่อให้การสื่อสารและไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ดังเดิม

“มีสายไฟฟ้าขาดมากกว่า 1,800 จุด นี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ เรากำลังทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้กันอีกครั้ง” ผู้ว่าฯ กล่าว

ด้านรัฐบาลออสเตรเลียได้ให้ทหารกองหนุนเข้ามาช่วยเหลือเก็บกวาดในเมืองเยปพูน รวมถึงระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบในรัฐควีนส์แลนด์

“พลังของไซโคลนลูกนี้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่ว พลังทำลายที่มีต่อพืชพันธุ์นั้นไม่ธรรมดา แถมยังเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีอาคารจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายรุนแรง” รองนายกรัฐมนตรี วอร์เรน ทรัสส์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ทางการยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้ที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บหนัก มีเพียงคำพูดของชาวบ้านที่เอ่ยถึงความน่ากลัวของพายุไซโคลนลูกนี้

“คุณสามารถมองเห็นหลังคาบ้านปลิวข้ามคอกม้าได้เลย” คาเรน จอห์นสัน บอกกับนักข่าวหลังจากที่พายุผ่านไปแล้ว เธออาศัยอยู่ในมาร์มอร์ ห่างไปทางใต้ของร็อคแฮมตันประมาณ 45 กิโลเมตร

“พวกม้าพากันแตกตื่นไปทั่วทั้งคอก สิ่งเดียวที่ฉันคิดออกในตอนนั้นคือ เจ้าม้าพวกนี้มีหวังคอขาดหรือไม่ก็ถูกฉีกออกเป็นสองท่อนแน่ๆ” เธอบอกกับสถานีโทรทัศน์ เอบีซี ของออสเตรเลีย

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาได้ยกเลิกคำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศของรัฐควีนส์แลนด์ในวันนี้ (22 ก.พ.) โดยระบุว่า ตอนนี้พายุไซโคลนมาร์เซียได้ออกนอกชายฝั่งไปแล้ว อย่างไรก็ตาม คำเตือนเกี่ยวกับน้ำท่วมยังคงมีอยู่ ในหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐนี้ ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำแมรีที่เอ่อสูงขึ้นในเมืองกิมปี ซึ่งอยู่ทางใต้ของร็อคแฮมตัน คาดว่าจะค่อยๆ ลดระดับลงมา

รัฐควีนส์แลนด์ เคยโดนถล่มด้วยพายุหลายครั้งตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาทิ พายุไซโคลนออสวัลด์ ที่มีความแรงระดับ 5 ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมขึ้นในหลายพื้นที่ของรัฐนี้ ช่วงปี 2013 ทำเอาบริษัทประกันภัยต้องปวดหัว เพราะมีการเคลมเงินประกันรวมมูลค่าสูงถึง 977 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

ส่วนในรัฐนอร์เทิร์นเทอร์ริทอรี ก็มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ด้วยเช่นกัน ตอนที่พายุไซโคลนแลมเข้าถล่ม

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น