กองทัพรัสเซียแถลงในวันอังคาร (18 กันยายน) ระบุว่าเครื่องบินขับไล่ของอิสราเอลเป็นสาเหตุทำให้กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียยิงเครื่องบิน Il-20 ของพวกเขาตก เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียได้ยิงออกมาตอบโต้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในลาตาเกีย ทำให้เครื่องบินสอดแนมที่ทันสมัยของรัสเซียถูกยิงตกพร้อมเจ้าหน้าที่ 15 คนบนเครื่อง ด้านผู้นำรัสเซียเร่งออกมาดับไฟขัดแย้งยิวบอกเครื่องบินถูกยิงตกเป็นความบังเอิญ
กองทัพอากาศอิสราเอลเปิดปฏิบัติการถล่มเมืองลาตาเกียอย่างที่ไม่มีใครคาดหมายมาก่อนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา และในแนวทางนั้นทำให้เครื่องบินของรัสเซียตกอยู่ในอันตราย กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในคำแถลง พร้อมบอกว่าอิสราเอลควรรู้ว่าพวกเขากำลังทำให้เครื่องบินรัสเซียถูกลูกหลงจากการโจมตีตอบโต้กลับของซีเรีย แต่พวกเขาไม่ยอมเปลี่ยนแนวทางเข้าจู่โจมเป้าหมายต่างๆ ในซีเรียหรือให้เวลาเครื่องบิน Il-20 ออกไปยังตำแหน่งปลอดภัย
ข้อมูลของกองทัพรัสเซียระบุว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 ของอิสราเอล จำนวน 4 ลำ ระดมโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในซีเรียเมื่อคืนวันจันทร์(17) โดยรุกคืบจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยการบินในระดับต่ำ ทำให้เครื่องบิน Il-20 ซึ่งกำลังลาดตระเวนในบริเวณเดียวกันถูกยิงตกโดยขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศ S-200 ของซีเรีย ที่ยิงตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล
“เราพิจารณาการกระทำอันยั่วยุของอิสราเอลในครั้งนี้ในฐานะปรปักษ์ กองกำลังของกองทัพรัสเซีย 15 นายเสียชีวิตเพราะปฏิบัติการที่ไร้ความรับผิดชอบของกองทัพอิสราเอล แน่นอนว่ามันสวนทางโดยสิ้นเชิงกับจิตวิญญาณแห่งความเป็นพันธมิตรระหว่างรัสเซียแลละอิสราเอล” แถลงการระบุ “เราขอสงวนสิทธิ์สำหรับตอบโต้อย่างสาสม”
ถ้อยแถลงดังกล่าวยังเป็นการปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ หลังจากก่อนหน้านี้กองทัพรัสเซียบอกว่ามีลูกเรือ 14 คนบนเครื่องบิน Il-20 ที่สูญหาย ในขณะที่ปฏิบัติการค้นหา และช่วยเหลือนอกชายฝั่งซีเรียยังคงเดินหน้ากันต่อไป
อิสราเอล อ้างว่าปฎิบัติการทางอากาศมีเป้าหมายถล่มคลังเครื่องมือผลิตอาวุธที่เก็บไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งในซีเรีย พร้อมระบุว่าอาวุธเหล่านั้นผลิตขึ้นในนามของอิหร่าน เพื่อส่งมอบแก่ฮิซบุลลาตในเลบานอน ทั้งนี้อิสราเอลยอมรับว่าเหตุเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ชี้ว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบควรเป็นซีเรีย, อิหร่าน และฮิซบุลลาต
ท่ามกลางความตึงเครียดที่ท่าทีเพิ่มขึ้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ออกมาดับไฟแห่งความตึงเครียดของกองทัพกับอิสราเอลโดยระบุในวันอังคาร(18) บอกว่าเหตุเครื่องบินกองทัพรัสเซียถูกยิงตกนอกชายฝั่งซีเรียนั้นเป็นผลแห่งห่วงโซ่โศกนาฏกรรมและเกิดขึ้นโดยความบังเอิญ
ความคิดเห็นของปูติน ซึ่งมีขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮังการีในกรุงมอสโก เป็นการลดความเกรียวกราดของลูกน้องในกองทัพกับอิสราเอล โดยบอกว่ารัสเซียจำเป็นต้องตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม
“ผมมองความเป็นไปได้มากที่สุดในกรณีนี้คือมันเป็นห่วงโซ่ของเหตุการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ เพราะเครื่องบินอิสราเอลไม่ได้ยิงเครื่องบินของเรา แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจำเป็นต้องสืบหาสาเหตุอย่างจริงจังว่าอะไรเกิดขึ้น” ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ปูตินบอกว่าปฏิกิริยาตอบสนองของรัสเซียต่อเหตุการณ์นี้ จะมีเป้าหมายที่การรับประกันความปลอดภัยแก่บุคลากรทางทหารของรัสเซียในสงครามอันซับซ้อนของซีเรีย ที่เหล่ามหาอำนาจจากภายนอกให้การสนับสนุนคนละฟากฝั่งของคู่ขัดแข้ง
“ในมาตรการตอบโต้ มันจะมีเป้าหมายลำดับแรกและเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดคือรับประกันความปลอดภัยแก่บุคคลากรทางทหารและที่ตั้งทางทหารของเรามากยิ่งขึ้นในซีเรีย” ปูตินกล่าว
